ไม่จบง่าย ๆ ! วัดพระธาตุพนม ประกาศปิดวัด 1 เดือน จนกว่าจะจัดระเบียบแผงค้าได้

3 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีข้อพิพาท จากปมการระเบียบการวางแผงค้าขาย บริเวณด้านหน้า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่กำลังเสนอเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาเป็นมรดกโลก 
ทำให้กลุ่มผู้ค้าบางส่วน เกิดความไม่พอใจ และท้าทายกฎหมาย นำสิ่งของมาวาง ปิดประตูทางเข้าองค์พระธาตุพนม มีการปะทะคารมดุเดือด ถึงขั้นท้าตีท้าต่อยกับ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือ ทนายกระดูกเหล็ก ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ในฐานะ ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนมฯ ขณะที่ทาง ทนายอนันต์ชัย ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ศึกจัดระเบียบหน้าวัดพระธาตุพนมฯ ผู้ค้าเจอไม้แข็ง ยอมถอยเปิดทางเข้าวัด

ทั้งนี้ แม้ว่า ศึกข้อพิพาทครั้งนี้ จะทำท่าจบลงได้สวย หลังวานที่ผ่านมา กลุ่มผู้ค้าจะยอมถอย เปิดทางเข้าวัด และรอให้จัดพื้นที่วางแผง

 

ล่าสุดวันนี้ (3 พ.ค.) ทนายอนันต์ชัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช แจ้งว่า 

ประกาศ #ปิดวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร 1 เดือน

เนื่องจาก วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร จะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่มีพ่อค้า แม่ค้า ช่างถ่ายภาพ หาบเร่ แผงลอยจำนวนมากเข้ามาขายสินค้าต่าง ๆ โดยไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางวัด  ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย และไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งบริเวณภายใน - ภายนอก ของวัดซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปทั่วประเทศ 

ด้วยเหตุนี้ ทางวัดจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดระเบียบการบริหารทั้งภายใน-ภายนอกใหม่ทั้งหมด จึงขอปิดวัดเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นเวลา 1 เดือน นับแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะจัดระเบียบให้เสร็จเรียบร้อย 

#หมายเหตุ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าสักการะทั้งนั้นครับ และไม่ต้องมาขอครับ ! 

จึงขอประกาศแจ้งมาให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกัน
ขออภัยในความไม่สะดวก 
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
(ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม / ไวยาวัจกร / ประธานคณะกรรมการบริหารฯ / ประธานบริหารภายใน-ภายนอก วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร)
 

ทนายอนันต์ชัย ระบว่า โดยก่อนนี้เคยมีปัญหา พ่อค้าแม่ค้าบางกลุ่ม ยัดเยียดดอกไม้ธูปเทียน ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว จนสร้างความเสื่อมเสีย และมีการฉวยโอกาสขายของแพง จำเป็นต้องจัดระเบียบ รวมถึงล้างระบบมาเฟียที่อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากพบข้อมูลว่า มีกลุ่มนายทุนบางกลุ่ม หนุนหลังพ่อค้าแม่ค้า และเรียกรับผลประโยชน์ และฉวยโอกาสแสวงผลประโยชน์กับวัด

ทั้งเก็บค่าเช่าแผงลอย รวมถึงนำพื้นที่วัด ไปปล่อยเช่ากันเอง โดยสิ่งเหล่านี้จะต้องล้างระบบให้หมดไป ห้ามมีข้ออ้างว่า เป็นวิถีชีวิตทำมานานหลายสิบปี พร้อมประสานแม่ทัพภาค 2 นำกำลังทหารเข้ามาดูแลพื้นที่ หากยังดื้อรั้นไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบวัด

ด้านตัวแทนกลุ่มผู้ค้าได้เล่าว่า พวกตนถูกไล่ออกมาจากภายในวัด ก็ไม่มีที่วางแผง เพราะทางวัดไม่ได้จัดล็อกให้ จึงจำเป็นต้องมาวางแผงกันที่ทางเข้าวัด อยากให้สังคมฟังความสองด้าน อย่าเพิ่งพิพากษาพวกตน และไม่อยากมีปัญหากับคณะกรรมการวัด แต่เพราะทางบ้านยากจน เมื่อทางวัดไม่มีความชัดเจน เรื่องสถานที่วางแผง แล้วจะให้พวกตนทำอย่างไร อีกทั้งไม่มีมาเฟียอย่างที่ถูกกล่าวหา