สลด เด็กหญิงสังเวยสงกรานต์ริมโขง จมน้ำดับ 1 ราย

14 เมษายน 2566 ที่หาดสุขสำราญริมน้ำโขง หน้าเทศบาลเมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ขณะที่ นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ นายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ นายอาทิตย์ สิริวงษ์ กำนันตำบลบึงกาฬ กำลังเดินตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณริมหาด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวพาลูกจูงหลานมาลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน เนื่องในวันสงกรานต์และวันครอบครัว จึงมีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำจำนวนมาก    

ขณะที่เล่นน้ำกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนบอกว่า มีเด็กจมน้ำ ทั้งหน่วยกู้ภัยนทีธรรม หน่วยกู้ภัยร่วมใจบึงกาฬ ตำรวจน้ำบึงกาฬ จนท.เทศบาลเมืองบึงกาฬ หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ และผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกี ที่สแตนบายอยู่บริเวณหาดได้ช่วยกันออกค้นหาร่างผู้จมน้ำทันที เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยเพียง 1 คนที่ห่วงยางถูกน้ำพัดพาไหลออกนอกทุ่นเขตปลอดภัย ไปสู่ล่องน้ำลึก คือ ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ

จากนั้นทีมกู้ภัยได้ช่วยกันออกค้นหาร่างผู้ที่สูญหายต่อ โดยวิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน คือการนำเบ็ดราวมาวางเพื่อลากไปตามจุดที่คาดว่าน้ำจะพัดพาร่างออกไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเบ็ดจึงเกี่ยวติดร่างที่จมหายไปได้ ในสภาพเนื้อตัวซีดขาวแล้ว ทราบชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 12 ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำ จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนเวร และแพทย์เวร รพ.บึงกาฬ มาตรวจสอบชันสูจน์พลิกศพ และมอบให้ญาติไปบำเพ็บกุศลตามประเพณี 

จากการสอบถาม ด.ญ.ส้ม (นามสมมติ) เล่าว่า ผู้ปกครองได้พาเล่นน้ำสงกรานต์พร้อมเพื่อนๆ 6 คน ขณะที่กินข้าวเสร็จผู้ตายได้ชวนไปเช่าห่วงยางลงเล่นน้ำ โดยตัวเองอยู่ในวงห่วงยาง ส่วนผู้ตายเกาะอยู่ด้านนอก ขณะนั้นได้ปล่อยให้น้ำพัดพาห่วงยางไหลไปตามน้ำเรื่อยๆ จนไหลออกนอกทุ่น ผู้ตายจึงได้วิ่งไล่ตามจะไปเกาะห่วงยาง แต่ไม่รู้ว่าเป็นร่องน้ำลึก จึงทำให้จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา จึงได้ตะโกนให้คนช่วย เรือเจ็ทสกีที่อยู่ใกล้จึงได้มาช่วยตนได้ทันเวลา