1 เมษายน 2566 ผู้สื่อรายงานว่า สถานการณ์หมอกควัน และ ฝุ่นPM.25 ของจังหวัดเชียงใหม่ยังน่าเป็นห่วง และการดับไฟป่าก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไฟป่าส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ที่มีความสูงชันและอยู่ในป่าลึก
ส่งสุดรายงานว่า มีชาวบ้านในหมู่ 5 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นลมหมดสติจากการสูดควันไฟ และเสียชีวิตระหว่างการเข้าไปช่วยดับไฟ ทำแนวกันไฟในเขตอุทยานแห่งชาติขุนขาน บ้านป๊อก ตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไม่ให้ไฟเข้าสู่ชุมชน ในเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 30 มีนาคม 2566 กระทั่งพบศพเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการด่วนให้นายอำเภอแม่ริม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยอุทยาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสวัสดิการ สิทธิต่าง ๆโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันจะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกำชับให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ขณะที่ คืนวันที่ 31 มีนาคม 2561 เวลา 01.30 น.ศูนย์ปฎิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าฯ อำเภอเชียงดาว ได้รับแจ้งจากนายยรรยง สีคำสุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านแม่ซ้าย ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว ว่ามีชาวบ้านแจ้งเหตุว่ามีเหตุไฟไหม้ป่าที่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนพร้อมด้วยอาสาป้องกันไฟป่าประจำหมู่บ้าน ประมาณ 12 คน จึงได้ร่วมกันเข้าพื้นที่เพื่อดับไฟป่า
เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบนายวิชัย วรรณวงค์ ท่าทางมีพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงได้สอบถามว่าเข้ามาทำอะไร นายเบิร์ดจึงตอบว่าเข้ามาจุดไฟเพื่อขับไล่ผึ้งและได้ทำแนวกันไฟไว้แล้ว ซึ่งขณะดำเนินการจับกุมนายเบิร์ดได้วิ่งหลบหนีไป จึงได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงดาว เพื่อดำเนินคดีกับนายเบิร์ดแล้ว
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตั้งรางวัลนำจับคนเผาว่า “จ่ายจริง รางวัลนำจับ คนเผาป่า” โดยได้แจ้งให้ผู้ร้องทุกข์เข้ารับรางวัลนำจับแล้วจำนวน 10,000 บาท พร้อมกำชับว่าหากที่ไหนมีการจับผู้จุดไฟได้อีก สามารถมารับรางวัลนำจับได้ทุกคดี
นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังได้ออกประกาศว่า “ศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดเชียงใหม่ (ศชฝ.ชม.) ฉบับที่ 2 ด้วยศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กจังหวัดเชียงใหม่ (ศชฝ.ชม.)
ทั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25) ของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีค่าฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน (อยู่ระหว่าง 91 - 366 มคก /ลบ.ม) และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ถ้าเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เป็นไปด้วยความรวดเร็วทันเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่หรืออยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มีค่ามากกว่า 91มคก/ลบ.ม) จึงขอความร่วมมือจากประชาชนปฏิบัติตน ดังนี้
ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่เริ่มต้นเดือนใหม่ด้วยหมอกควันและฝุ่นPM2.5 ที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม ท้องฟ้าเต็มไปด้วยกลุ่มควันสีขาวขุ่น ซึ่งสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเช่น ดอยสุเทพที่เป็นอีกหนึ่งสัญเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ยังถูกหมอกพิษบดบัง และประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.00 น. แอพพลิเคชั่น “AirVisual” ได้รายงานคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า เชียงใหม่มีค่า AQI อยู่ที่ 321 ซึ่งถือว่า อยู่ในระดับที่อันตราย ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และควรหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันฝุ่นPM2.5
สำหรับจุดตรวจวัดค่า PM2.5 ของแอปพลิเคชั่น Air4Thai รายงานว่า ตำบลช้างเผือกวัดได้ 199 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตำบลศรีภูมิวัดได้ 194 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตำบลสุเทพวัดได้ 176 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่สูงและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน