29 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้เสียหายกรณีร่วมลงทุนฟาร์มกัญชา ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 30 คน หอบหลักฐานเข้าร้องเรียน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัทแห่งหนึ่ง ที่อ้างให้ร่วมหลอกลงทุนฟาร์มกัญชา
คุณเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้ที่มาชักชวนเป็นผู้บริหารบริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก่อนผันตัวมาทางด้านธุรกิจกัญชา สร้างความน่าเชื่อถือโดยการพาไปดูงานที่ อโลคยาเดอสารภี ของ ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง หรือ แม่มดกัญชา ที่เป็นทั้งแหล่งผลิต และศูนย์การเรียนรู้ ด้านการปลูกกัญชาโดยตรง ทำให้แต่ละคนมั่นใจในการลงทุน เพราะบริษัทได้อ้างว่าจะผลิตกัญชา และมาขายให้กับ ดร.แก้มหอม ที่รับซื้อและให้ค่าตอบแทนสูง
ทั้งนี้ เปิดให้ลงทุนหน่วยละ 1 แสนบาท เพื่อทำโรงเพาะเลี้ยงกัญชา และได้ค่าตอบแทนสูงถึง 160% ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะมีเงินปันผลทุกเดือน
"ส่วนตัวของตนรวมเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1,300,000 บาท แต่หลังจากลงทุนไปนานเกือบ 1 ปีได้รับเงินปันผลประมาณ 1 แสนบาท"
คุณเอ กล่าวอีกว่า ต่อมาบริษัทเริ่มไม่จ่ายเงินปันผล จึงติดตามทวงถามแต่กลับบ่ายเบี่ยง คาดว่าถูกหลอกลวง จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหาย และจะต้องตรวจสอบว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นความผิดกฎหมายอะไรบ้าง กรณีมีผู้เสียหายหลายราย ตำรวจจะตั้งคณะทำงานสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหลักและจากการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับคดีนี้ ก็เข้าข่ายการฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก อีกทั้งมีการโฆษณาในเรื่องของการหลอกร่วมลงทุน และจะมีการตรวจสอบว่าการหลอกร่วมลงทุนนั้น มีการลงทุนจริงหรือไม่
ขณะที่ ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ตรวจสอบกับ ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง แม่มดกัญชา ผู้บริหาร อโรคยาเดอสารภี เปิดเผยว่า ที่อโรคยาเดอสารภี เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับกัญชาครบวงจร ที่ใครจะเข้ามาดูงานก็ได้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งหากใครจะลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจด้านกัญชาจะต้องศึกษาให้รอบคอบ เพราะตนมักจะถูกนำไปแอบอ้างอยู่บ่ายครั้ง