แจ้ง 5 ข้อหาหนัก ชายคลั่งยิงมั่ว ดับ 1 เจ็บ 2

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธกระหน่ำยิง ใส่รถบรรทุกพ่วง รถเก๋ง และซาเล้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และ เหตุเกิดบริเวณถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 1 ตำบลปากน้ำ อำเภอเดิมบางนางบวช เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา



หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เดิมบางนางบวช ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวนภาค 7 ได้ระดมกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย และรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยทราบว่าเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว และผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุคือ นายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าเข้าจังหวัดชัยนาท 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เร่งล่า ชายคลั่งกราดยิงสุพรรณบุรี จอดกระบะลั่นไกถล่มรถผ่านไปมา ดับ 1 สาหัส 1

ทั้งนี้ เกี่ยวกับคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.พีระ อัศวะพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้นำกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ร่วมกับ ชุดสืบสวนภาค 7 และสืบสวน สภ.เดิมบาง พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ให้ช่วยสืบหาเบาะแสของคนร้าย


กระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่ 13 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้รับแจ้งจากภรรยาของ นายศุภชัย ว่า สามีมีอาการคลุ้มคลั่ง ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท จึงได้เข้ามาคุมตัวจากบ้าน เพื่อนำตัวไปให้แพทย์ที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร ฉีดยากล่อมประสาท สงบสติอารมณ์ 


จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้รับการประสานว่า นายศุภชัย คือผู้ก่อเหตุยิงคนตาย และบาดเจ็บ ในเขต อ.เดิมบางนางบวช จึงควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อทำการสอบสวน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวนายศุภชัย  เดินทางไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ จอดรถทิ้งไว้ ก่อนไปหาภรรยา จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบว่า กระจกด้านหน้าเป็นรอยกระสุน จำนวน 5 นัด ภายในรถยังพบปืนของกลางขนาด 9 มม. และกระสุนที่ยังไม่ได้ใช้อีกหลายนัด ที่พื้นข้างคนขับ พบขวดเบียร์วางอยู่ 1 ขวด ส่วนที่หน้ากระจกพบถุงใบกระท่อมวางอยู่ 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวนายศุภชัย ตรวจหาสารเสพติด โดยพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี จึงนำตัวนายศุภชัย ส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.เดิมบางนางบวช เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในช่วงเช้าแม่และญาติ ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อจัดการเรื่องเอกสาร โดยทางผู้ต้องหาทางตำรวจได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม 

เบื้องต้น นายศุภชัย ให้การรับสารภาพว่า กำลังจะขับไปส่งของให้เพื่อนที่ภาคใต้ ระหว่างทางเจอรถ จยย. ขับปาดไปมา จึงใช้อาวุธยิงปืนออกไปด้วยความโมโห จากนั้นภาพก็ตัดไป และจำอะไรไม่ได้อีกเลย ส่วนชนวนการก่อเหตุ น่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัว จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งทางศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้อนุมัติหมายจับ และแจ้ง 5 ข้อหา ประกอบด้วย /  ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / พยายามฆ่าผู้อื่น / มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ / พกพาอาวุธ ไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต /  ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร 

สำหรับอาการของเด็กชายวัย 14 ปี ที่ถูกยิงขณะนี้ อาการปลอยภัยแล้ว ซึ่งรอส่งตัวไปผ่าเอาหัวกระสุนออกที่โรงพยาบาล ต่อในวันนี้ โดยหลังสอบสวนผู้ต้องหาแล้ว ทางตำรวจได้นำตัว นายศุภชัย ไปส่งฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี  โดยได้คัดค้านการประกันตัว และไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 

ตำรวจแถลงผลจับกุมผู้ก่อเหตุ


จากนั้นในช่วงบ่ายทาง พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กุญชร วงษ์พันธุ์ ผกก.สภ.ภูธรเดิมบางนางบวช ร่วมสอบสวนผู้ต้องหาพร้อมแถลงผลการจับกุม โดย พล.ต.ต.เกรียงไกร กล่าวว่า ด้วยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 19.15 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์สื่อสาร สภ.เดิมบางนางบวช ว่ามีเหตุคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ที่เกิดเหตุบริเวณถนน 340 ทางมุ่งหน้าไปทางชัยนาท 

นอกจากนี้ยังพบ น.ส.มยุรี (สงวนนามสกุล) นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นั่งโดยสารข้างคนขับรถบบรรทุกพ่วง และทราบว่า นายวีระพันธ์ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว โดยถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และบริเวณฝั่งตรงข้ามถนน 340 ทางมุ่งหน้าไปทางสุพรรณบุรี  ยังด้พบรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีดำ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนบริเวณกระโปรงหน้ารถ และ พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บริเวณใกล้กับศาลาที่พัก ปากทางเข้าคลอง 5 ริมถนน 340 มุ่งหน้าสุพรรณบุรี และมีเด็กชายวัย 14 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ มีผู้นำส่งโรงพยาบาล

จากการสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์ โดยนายมิน (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นบิดาของเด็ก ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยกลางคนได้ใช้อาวุธปืนยิงทะลุออกมาจากรถยนต์กระบะ แล้วลงจากรถ แล้วลงยิงปืนใส่รถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ ที่วิ่งมาฝั่งตรงข้าม และหันมายิงปืนใส่เด็กจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป โดยจากการสืบสวนจึงทราบว่ารถกระบะ ยี่ห้ออีซูชุ ที่ใช้ก่อเหตุได้มีการซื้อขายและโอนลอยไว้ โดยมีนายศุภชัย เป็นผู้ที่ซื้อมาใช้งานและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ ตำรวจจึงสืบสวนติดตามตัวนายศุภชัย 

จากการสอบถามญาติของนายศุภชัย ทราบว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2566 เวลาประมาณ 21.00 น. หลังก่อเหตุญาติได้ไปรับตัวนายศุภชัย จากโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท เพื่อนำตัวกลับไปที่บ้าน โดยนายศุภชัย มีอาการคลุ้มคลั่ง ญาติจึงได้ให้คนพาส่งโรงพยาบาล และประสานกับตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ซึ่งต่อมาตำรวจได้รับแจ้งจากลูกเจ้าของโรงแรมดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ได้มีนายศุภชัย ขับรถกระบะ เข้ามาจอดในบริเวณโรงแรม หลังจากนั้นภรรยาและพ่อของนายศุภชัย ได้มารับตัวออกไป 

ซึ่งผู้แจ้งได้สังเกตเห็นว่า นายศุภชัย ดูไม่ปกติ ตาขวาง พูดจาเพ้อเจอ และเห็นที่บริเวณกระจกหน้ารถยนต์คันดังกล่าวมีร่องรอยถูกยิง 5 รู กลัวว่านายศุภชัย อาจจะไปก่อเหตุอะไรมา และอาจทำให้ผู้แจ้งได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท เชิญตัวนายศุภชัย มาที่ สภ.เมืองชัยนาท จากนั้นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เดิมบางนางบวช ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี และชุดสืบสวนภาค 7 ได้รีบเดินทางไปยัง สภ.เมืองชัยนาท 



สอบสวนเบื้องต้น นายศุภชัย ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูชุ สีเขียว มาบนถนน 340 ผ่านแยกปากน้ำ มุ่งหน้าเข้าเมืองสุพรรณบุรี เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ถูกรถจักรยานยนต์พ่วงข้างตัดหน้า จึงได้ใช้อาวุธปืนยิง หลังจากนั้นได้ขับรถคนดังกล่าว และหลบหนีไปจอดรถที่โรงแรมจริง ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปที่โรงแรม พบรถกระบะจอดอยู่หน้าห้องพัก ตรวจค้นรถพบอาวุธปืนจำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืน อยู่ในรถยนต์ 

โดยนายศุภชัย ให้การยอมรับว่า เป็นปืนที่ใช้ยิงก่อเหตุจริง และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวนายศุภชัย พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  พยายามฆ่าผู้อื่น  มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จากการตรวจสอบประวัติ พบเคยต้องโทษ ข้อหา เสพยาเสพติด เมื่อปี 2554 จากนั้นส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ขณะที่ นางวรรณดี (สงวนนามสกุล) แม่ผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้มาทำเรื่องเอกสารทราบข่าวตอน 2 ทุ่มกว่าเสียใจมาก ลูกไม่เคยมีปัญหากับใครทำงานหาเงินอย่างเดียว เขากับแฟนเขารักกันดีมาตลอดไม่เคยทะเลาะกัน ไปไหนจะไปด้วยกันตลอด คิดว่าคนก่อเหตุยิงมั่วไม่ได้ตั้งใจยิง ก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไร ลูกเขยไม่มีปัญหากับใคร ลูกสาวเป็นคนร่าเริงชอบช่วยคนตั้งใจทำมาหากิน วันนี้มายังไม่ได้เจอตัวผู้ต้องหา อยากจะเห็นหน้าเขาอยากรู้ว่าทำไม เพิ่งจะคุยกับลูกตอนช่วงเช้าและตอนมืดมารู้ข่าว ก็ทำอะไรไม่ถูกช็อกไปเลย 

ด้าน ญาติมือปืน ระบุว่า ปกติผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่อารมณ์ร้อน เรื่องในช่วงชีวิตเขา เราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นพ่อค้าขายขี้ไก่ ตอนเกิดเหตุ พอมารู้ข่าวถึงกับช็อก เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ อยากจะฝากขอให้กลับมาเป็นแบบเก่า มีกฎหมายควบคุม คนมาใช้กันมากเกินไป ลูกเด็กเล็กแดง ตนเสียพี่ตนไปคนนึง ก็เพราะเรื่องนี้ 

“สิ่งที่มันเกิดขึ้นมา ก็เพราะจากการปลดล็อคกัญชา และใบกระท่อม ฝากให้กลับเข้าไปสู่ในระบบแบบเก่าดีกว่า  ไม่อยากให้มีเสรีแบบนี้ บ้านเมืองมันวุ่นวายไปหมดแล้ว คนบริสุทธิ์จะต้องมาเสียกันไปในเรื่องแบบนี้ มันไม่สมควรฝากไว้ด้วยครับ”ญาติมือปืน กล่าว 

ด้าน นายวีระพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อาการบาดเจ็บของตนตอนนี้ ปากฉีก ต้องทำการรักษาด้วยการเย็บ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกสงสารภรรยาเป็นอย่างมากที่ต้องมาเสียชีวิต โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไร ภรรยาพูดแค่ว่า “อ้วนอยากกินข้าวขาหมู” ซึ่งตนกำลังจะพาภรรยาไปกิน แต่สุดท้ายก็กลับไม่ได้กิน เขามาเสียชีวิตก่อน 

ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีสติ เพราะเมานั้น ตนไม่เชื่อ ว่าคนเรามันไม่มีสติ “คนเมามันกินขี้ไม่ได้” ถ้าเขาไม่มีสติ เขาจะหยิบปืนขึ้นมาได้ยังไง เอาปืนมายิงได้ยังไง หากผู้ก่อเหตุ และครอบครัวจะมาขอขมานั้น ตนไม่ยินดี ไม่ต้องมาขอขมาศพอะไรทั้งนั้น ให้เขารับกรรมของเขาไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตน และครอบครัวรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด ที่ตนทำงานทุกวันนี้ ก็ทำเพื่อครอบครัว แต่พอมาเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ตนไม่มีกำลังใจ และรู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก 

“ส่วนตัวตนไม่เคยมีปัญหาหรือรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน จนกระทั่งมาเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนบ้านเดียวกัน ทั้งนี้ ตนไม่มีอะไรฝากถึงผู้ก่อเหตุ อย่างไรตาม หากภรรยารับรู้ได้ตนอยากฝากถึงภรรยาว่า ขอให้หลับสบาย เหนื่อยมาเยอะแล้ว ตนรักเขามาก และก็ทำทุกอย่างเพื่อเขา ไม่ต้องห่วงเป็นห่วงลูก ตนจะดูแลเอง” สามีผู้เสียชีวิต ระบุ