13 มีนาคม 2566 เกิดเหตุชายคลั่งกราดยิง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.กรกฏ สบายยิ่ง สารวัตรสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นเดินทางพร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.สุพรรณบุรี แพทย์เวร รพ.เดิมบางนางบวช และ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบ รถพ่วงยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนจังหวัดชัยนาท เป็นรถเปล่าจอดอยู่ข้างทางที่กระจกรถข้างคนขับมีรอยกระสุน 1 รู ที่เบาะนั่งคนขับ พบนายวีระพันธ์ เอี่ยมสะอาด อายุ 34 ปี ผู้ขับรถสิบล้อพ่วง ถูกยิงเข้าที่ริมฝีปากได้รับบาดเจ็บ และกระสุนทะลุไปถูกขมับขวานางสาวมยุรี เอี่ยมสะอาด อายุ 32 ปี ภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้างซ้าย เสียชีวิตคาที่
บริเวณปากทางแยกคลอง 5 ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร พบปลอกกระสุน 9 มม.ตกอยู่ 4 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ขณะนั่งซาเล้งมากับพ่อ และมีพบรถเก๋งซูซูกิ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ถูกยิงกระสุนเจาะที่กระโปรงหน้ารถ 1 นัด โชคดีกระสุนไม่ทะลุไปโดนคนในรถ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถของคนร้ายเป็นรถกระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป ซึ่งลักษณะการก่อเหตุเหมือนคนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ยิงมั่วไม่สนใจใคร เห็นใครผ่านยิงทันที ซึ่งตำรวจได้เร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและดูจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี และจะได้สอบสวนหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายวีระพันธ์ คนขับรถพ่วงซึ่งเป็นสามีคนตายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกน้ำตาลมาจากจังหวัดชัยนาท มาส่งที่โรงงาน อ.ด่านช้าง หลังจากลงน้ำตาลเสร็จได้ขับรถกลับ จ.ชัยนาท โดยมาพร้อมรถพ่วงอีก 3 คันกำลัง จะแวะทานข้าวใกล้ที่เกิดเหตุ จู่ๆมีเสียงดังปัง จากนั้นตนก็เกิดอาการช็อก ไปชั่วขณะ
หลังได้สติจึงประคองรถเข้าจอดข้างทางแล้วหันไปดูภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้างเห็นภรรยานอนฟุบเลือดท่วม ตอนนั้นสติแตก เปิดประตูรถตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุให้ช่วยพาภรรยาส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าภรรยาตนเสียชีวิตแล้วตอนนี้ตนหมดหวังแล้ว อุส่าห์เก็บเงินสร้างบ้าน เตรียมสร้างอนาคต หมดกันเลยทีนี้ มาตายโดยที่ไม่ได้มีเรื่องกับคนร้ายแบบนี้
ด้านน.ส.กฤษณา เยี่ยมจรรยา อายุ 33 ปี เจ้าของรถเก๋งซูซูกิที่ถูกลูกยิง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ "ชายคลั่งกราดยิง" ตนขับรถพาแฟนและแม่กลับจากบ้านญาติที่ชัยนาท จะกลับบ้านที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถกระบะจอดอยู่ข้างทางมีผู้ชายถือปืนยืนอยู่จึงเบี่ยงรถออก พอมาถึงจู่ๆ ผู้ชายที่ยืนอยู่ที่รถกระบะ ได้ยิงใส่รถของตนทันที
น.ส.กฆษณา กล่าวอีกว่า ได้ยินเสียงดังปัง 1 นัดจึงรีบเหยียบคันเร่งหนี แต่เร่งไม่ขึ้น จึงรีบประคองรถจอดข้างทางแล้วรีบโทรแจ้งตำรวจ เพราะตอนนั้นมีรถตนอยู่คันเดียว กลัวเขาจะตามมายิงซ้ำ แต่พอหันมาดูก็ไม่พบรถกระบะแล้ว พอลงมาดูก็พบว่ารถถูกยิง แต่โชคดีที่คนในรถซึ่งมา 3 คน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นายมิน แสนเมือง อายุ 70 ปี พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ที่ถูกยิง กล่าวถึงเหตุ "ชายคลั่งกราดยิง" ว่า ตนประกอบอาชีพเก็บของเก่าขายก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพ่วงข้างย้อนศรมา ก็ขี่ไปเรื่อยๆแล้ว เขาก็ขับรถมาด้านหน้าลุงแล้วยิงปืนในรถออกมาหลายนัด จากนั้นก็ลงจากรถมา นึกว่าเขาจะมาพูดเฉยๆแต่กลับมายิงลูกชายกระสุน ถูกเข้าที่แขนขวา 2 แผล แล้วหันปากกระบอกปืนมาที่ลุงบอกว่าจะยิงให้ตายให้หมด ลุงเลยบอกว่าหนูลุงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนะ ลุงไปเก็บของเก่ามาจะกลับบ้าน คนร้ายจึงหันปืนมาจ่อ พอพูดแค่นั้นเขาก็ง้างปืนยิงขึ้นฟ้า ไปหลายนัด
จากนั้นลุงก็ไปจูงรถเครื่องเลาะออกไป ลูกชายนั่งร้องไห้อยู่ที่รถ คนยิงดูจากลักษณะแล้วอายุน่าจะประมาณ 50 ปี ตัวดำๆหน้ายาวๆหน่อย ขับรถกระบะสีดำ เขายิงใส่หน้ารถตัวเองก่อนจนกระจกพรุนหมดเลย แล้วเขาถึงลงจากรถมายิงใส่ลูกลุง แล้วก็จะมายิงลุงต่อ พอลุงพูดเขาก็เปลี่ยนเป็นยิงขึ้นฟ้าประมาณ 3 นัด
ด้านนายเสถียร พูลสวัสสดิ์ นายกเทศมนตรี เทศบาล ต.ปากน้ำ กล่าวว่าได้ยินเสียงปืน 4-5 นัด แล้วมีชาวบ้านโทรมาบอกว่ามีรถโดนยิง พอมายังไม่ถึง ก็มีคนโทรมาบอกอีกว่ามีคนในหมู่บ้านโดนยิง จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป้องกันของเทศบาลรีบไปรับคนเจ็บ จากนั้นตนจึงประสานและมาดูที่เกิดเหตุ ก็พบคนเจ็บและเสียชีวิต
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถของคนร้าย เป็นรถกระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจอดที่ปากปากทางแยกคลอง 5 ห่างระหว่างนั้นมีรถพ่วงข้างของนาย มิน แสนเมือง อายุ 70 ปี พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ขับย้อนศรหาเก็บของเก่า คนร้ายไม่พอใจได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เด็กชาย 14 ขวบได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหันปากกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วลั่นไก อีกหลายนัดทำให้กระสุนไปถูกรถพ่วงที่ขับผ่านมาโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จนมีคนเจ็บและเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขับรถวนไปดูรถพ่วง ก่อนจะกลับรถมาจอดที่เดิม และเป็นจังหวะเดียวกับที่น.ส.กฤษณา เยี่ยมจรรยา อายุ 33 ปี ขับรถเก๋งซูซูกิ ผ่านมาคนร้ายจึงใช้ปืนยิงใส่รถเก๋งอีก 1 นัด
หลังก่อเหตุได้ขับรถไปดูรถพ่วง ก่อนจะวนมาที่จุดก่อเหตุ แล้วขับรถหลบหนีไปอย่างสบายใจ ซึ่งลักษณะการก่อเหตุเหมือนคนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ยิงมั่วไม่สนใจใคร เห็นใครผ่านยิงทันที หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีเข้าเขต จังหวัดชัยนาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเดิมบางบวช ให้แพทย์รักษา
ล่าสุดชุดสืบสวน ภาค 7 สืบสวน ภ.จ.ว.สุพรรณบุรี และเดิมบางนางบวช ได้จัดชุดทำงานติดตามล่าคนร้ายรายนี้อย่างกระชั้นชิดแล้ว หากคนร้ายต่อสู้ขัดขืนอาจมีมาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด