กู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหาย เหตุแพล่มกลางแม่น้ำมูล ยังไม่เจออีก 3 ร่าง
กู้ภัยเร่งค้นหาผู้สูญหาย เหตุแพล่มกลางแม่น้ำมูล แบ่ง 3 ทีมปฏิบัติงาน ล่าสุดยังเหลือผู้สูญหายอีก 3 ราย ขณะที่ชาวบ้านเกาะติดให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
9 มีนาคม 2566 ความคืบหน้า เหตุแพข้ามฟากของชาวบ้าน คำนกหอ หมู่ 15 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร ล่มกลางแม่น้ำมูล ทำให้มีผู้สูญหาย 4 ราย คือ นางสาวจิรวรรณ ยิ้มช้าง อายุ 31 ปี , นายหนึ่งศักดิ์ดา พันธ์เสาร์ อายุ 41 ปี , ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) อายุ 11 ปี ลูกชาย นายศักดิ์ดา , นายฉัตรชัย ชะภูธร อายุ 31 ปี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ช. อนันตสิทธิ์ อายุ 8 ปี ที่เสียชีวิตหลังนำส่ง รพ. และนางสาวจิรวรรณ ผู้เป็นแม่ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถานอุบลราชธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ได้ระดมเรือท้องแบน และนักประดาน้ำ เข้าสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สามารถค้นหาร่างของ นางสาวจิรวรรณ แม่ของ ด.ช.อนันตสิทธิ์ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้า ทำให้ขณะนี้ ยังคงเหลือผู้สูญหายอีก 3 รายคือ นายหนึ่งศักดิ์ดา , ด.ช.อานนท์ (เต็งหนึ่ง) ลูกชายนายหนึ่งศักดิ์ดา และ นายฉัตรชัย
ซึ่งตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังคงเร่งค้นหา มีชาวบ้านมาคอยเฝ้าดูการทำงาน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย แบ่งกำลังทำงานออกเป็น 3 ชุด คือ ชุดที่ปฎิบัติงานแล้ว ให้กลับมานอนพักเอาแรง ชุดที่ 2 ให้พักรับประทานอาหาร และชุดปฎิบัติงานค้นหาใต้น้ำ ซึ่งขณะนี้ สามารถกู้แพที่ล่มได้แล้ว ซึ่งสภาพแพที่กู้มาได้ เป็นแพไม้เก่าขนาด 2 x 4 เมตร หลังคาสังกะสี ไม่มีเครื่องยนต์ คาดว่า น่าจะหลุดออกจากแพขณะที่เกิดเหตุ
นายอมร พรมสอน นายอำเภอสิรินธร เปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมา มีงานมหรสพที่ฝั่งบ้านตุลุง ตำบลโขงเจียม มีหมอลำซิ่ง วัยรุ่นจากบ้านคำนกหอ บ้านสุวรรณวารี ก็ข้ามไปเที่ยวงานหมอลำซิ่งด้วยแพข้ามฟากไปกลับ แต่จำนวนวัยรุ่นที่กลับค่อนข้างมาก เนื่องจากมีเหตุทะเลาะวิวาทในงาน ทุกคนจึงรีบกลับ
พอมาที่แพเที่ยวที่ 2 ด้วยจำนวนคนมาก จึงทำให้แพล่ม วัยรุ่นบางส่วน ว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้ บางส่วนก็ช่วยเหลือได้ มีการสูญหายไป 4 คน เสียชีวิตเป็นเด็กชาย 1 คน ที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 4 คนที่หายไป เจ้าหน้าที่ ค้นหาเจออีก 1 คน
สำหรับส่วนราชการ ยังระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่อง เรื่องการเยียวยา องค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว สามารถจ่ายเงินสงเคราะห์ คนที่เสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติได้ รายละไม่เกิน สามพันบาท ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า ทั้งหมดค่อนข้างที่จะขาดแคลน สามารถรับเงินสงเคราะห์ได้ ส่วนเรื่องคดีทาง ตำรวจ สภ.สิรินธร ได้ควบคุมตัวเจ้าของแพ หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปสอบสวนแล้ว ส่วนผู้ที่ขับแพทราบว่า ขณะนี้สูญหายจากเหตุการณ์นี้
น.ส.จันทัย แสนทวีสุข นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ สพป.อุบล เขต 3 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัว ของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต เหตุการณ์นี้มีนักเรียนในสังกัด ได้รับผลกระทบ 2 ราย แนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้น ทางโรงเรียนได้ประสานกับบริษัทประกัน เพื่อจ่ายสินไหมให้กับครอบครัว มีการรวบรวมเงินจากคณะครู เพื่อดูแลเยียวยาเบื้องต้น และอำนวยความสะดวกในการค้นหา
ด้านนายบิ๊ก ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนได้นั่งแพข้ามฟากไปดูหมอลำ หลังจากนั้นมีการตีกัน พวกตนจึงได้พากันนั่งแพกลับมาบ้าน แต่คนที่โดยสารมีเยอะ แล้วยืนอยู่หัวเรือ ทำให้น้ำเข้าเรืออย่างรวดเร็ว ทุกคนในเรือต่างเอาชีวิตรอด ตนได้ยินแต่เสียงขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ตนสามารถช่วยเด็กมาได้เพียงคนเดียว พอลงกลับไปอีกครั้งก็ไม่ทันแล้ว
