svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

หัวอกแม่ สู้เพื่อลูก ย้ายโรงเรียนปกป้องดวงใจ หนีถูก "เพื่อนบลูลี่"

แม่เด็กนักเรียนสาว เหยื่อถูกเพื่อนบลูลี่ ตัดสินใจย้ายโรงเรียนให้ลูกแล้ว ระบุถูกเพื่อนกลั่นแกล้งสารพัด นานกว่า 1 ปี

จากกรณีผู้ปกครอง ได้โพสต์กรณีลูกป่วยโรคซึมเศร้าถูก "เพื่อนบูลลี่" ทำลายทรัพสินย์ กลั่นแกล้งสารพัด จนทำให้บุตรสาวคิดมาก และล้มป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล อีกทั้งลูกสาวยังจะทำร้ายตัวเองอีกหลายครั้ง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่า เด็กที่ถูกเพื่อนบูลลี่รายนี้คือ น้องส้ม(นามสมมุติ)อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เขต อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งนอกจากนี้ถูกเพื่อนบลูลี่แล้ว ยังถูกเพื่อนใช้คัตเตอร์กรีดสมุดสุดรักจนขาด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น



หัวอกแม่ สู้เพื่อลูก ย้ายโรงเรียนปกป้องดวงใจ หนีถูก "เพื่อนบลูลี่"


ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในสังกัด พม. ได้เดินทางลงพื้นที่ โดยพบกับ น.ส.ศิริรัตน์ อายุ 35 ปี แม่ของ ด.ญ.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ กรณีถูกเพื่อนนักเรียนใช้คัตเตอร์ กรีดสมุด ที่เป็นของใช้ส่วนตัวจนขาด กระทั่งต่อมาเมื่อแม่ทราบเรื่อง จึงได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน  เนื่องจากครูภายในโรงเรียน ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้ กระทั่งแม่ของน้องได้เดินทางไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองระยอง "เพื่อนบูลลี่"

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.ศิริรัดน์ เปิดเผยว่า ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองระยอง เอาไว้แล้ว กรณีที่ลูกสาวถูก "เพื่อนบลูลี่" ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากทาง ผอ.โรงเรียน  ให้เข้าไปเจรจาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังแจ้งความ ตนเองได้พูดคุยกับกลุ่มเด็กผู้ก่อเหตุด้วย โดยพบว่าถูกเพื่อนแกล้งสารพัด มานานกว่า 1 ปี 

หัวอกแม่ สู้เพื่อลูก ย้ายโรงเรียนปกป้องดวงใจ หนีถูก "เพื่อนบลูลี่"


"ในตอนนี้ ได้ตัดสินใจให้ลูกสาวย้ายโรงเรียนแล้ว โดยจะให้ไปเรียนต่อที่อื่นแทน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง ซึ่งทาง ผอ. และ รอง ผอ. ได้พูดคุยถึงแนวทางต่างๆ ให้รับทราบแล้ว ในส่วนนี้ต้องขอขอบคุณบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ที่เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้" แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 ระบุ 


ขณะเดียวกัน น.ส.นพพนา หัวหน้าบ้านพักเด็กฯระยอง เปิดเผยว่า ปัญหาในลักษณะนี้  หรือ ถูก"เพื่อนบลูลี่ที่เกิดขึ้นจนทำให้เด็กกลายเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งต้องฝากไปถึงครอบครัวของผู้ปกครองทุกๆท่านด้วยว่า ต้องคอยพูดคุย และเอาใจใส่กับบุตรหลานด้วย เพราะหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาแล้ว จะได้สามารถแก้ไขได้ทันการ 

ทางด้าน นายมนตรี สิริทัตสุนทร ผอ.โรงเรียน เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ปัญหาเด็กนักเรียนถูก "เพื่อนบลูลี่นีั้น ขณะนี้หลายหน่วยงาน ได้เข้ามาหารือในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งตนได้กำชับให้ครูอาจารย์ภายในโรงเรียน เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว โดยจะมีการประชุมเพื่อหาทางแก้ไขให้เป็นระบบต่อไป  ส่วนสมุดที่ขาดนั้น จากการสอบสวนทราบว่า สมุดดังกล่าว ได้ขาดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และเพื่อนนักเรียนที่เป็นคู่กรณี ก็นั่งอยู่ใกล้ๆกัน โดยในวันเกิดเหตุทราบมาว่า เพื่อนนักเรียนรายนี้ ได้จับสมุดมาอ่าน ในขณะที่เจ้าของเค้าไม่อยู่ คือไม่ได้รับอนุญาต 


หัวอกแม่ สู้เพื่อลูก ย้ายโรงเรียนปกป้องดวงใจ หนีถูก "เพื่อนบลูลี่"

สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า ถูกคุณครูว่ากล่าว และไล่ให้ย้ายโรงเรียนนั้น เรื่องนี้ได้ทำการตรวจสอบแล้ว ก็ไม่เป็นความจริง โดยทั้งคุณครู และ ผอ. ก็ไม่เคยเอ่ยปากพูดในลักษณะเช่นนี้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดก็คือ น้องนักเรียนมีอาหรือน้าอยู่ที่เชียงใหม่ ก็จะมีการย้ายโรงเรียนไปเรียนต่อที่โน้น  ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้แนะนำไปว่า  หากจะย้ายโรงเรียนก็สามารถที่จะนำเกรดจากที่โรงเรียนนี้ไปยื่นให้กับทางโรงเรียนใหม่ได้ ซึ่งก็ได้มีการแนะนำขั้นตอนต่างๆให้ไป "เพื่อนบลูลี่"