
2 มกราคม 2566 ที่ จ.ตรัง ได้มีชาวเน็ตรายหนึ่ง โพสต์คลิปพระวัดแห่งหนึ่ง ยืนด่าพระอีกรูปหนึ่งด้วยถ้อยคำหยาบคาย ในขณะยืนบิณฑบาต พร้อมทั้งระบุข้อความว่า
“คุณพระคุณเจ้า การทำบุญมันก็เเล้วที่ผู้มีจิตศรัทธาสิคะ เขาจะใส่บาตรองค์ไหนก็ขึ้นอยู่ที่ว่า เขารักและศรัทธาในพระพุทธศาสนา และในพระรูปนั้น เกิดมาไม่เคยเจอ นี้พ่อหลวงบอกไม่เชื่อมาดูด้วยตัวเอง ไม่ได้ประจานแต่อยากให้ทุกคนเห็น เมืองตรังมีพระด่า ยม. และใช้คำไม่สุภาพ เพียงเพราะ มีพระอีกองค์มายืนบาตรที่เดียวกัน พระอีกองค์เขายืนตรงนี้มาก่อนเป็น 3 - 4 ปี แล้ว แต่หยุดมายืนไปเพราะไม่ค่อยสบายและไม่เวลา พอกลับมายืนใหม่ถูกพระที่มายืนเเทนใหม่ด่า มันสมควรแล้วไมคะ ตาหลวง”
ซึ่งภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างมีการแชร์ และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม ถึงความไม่เหมาะสม
ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้ติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าว จนทราบว่าคือ น.ส.ไอลดา หรือ บี อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของ พระพัน ฉันทโก หรือ หลวงศักดิ์ อายุ 62 ปี พระลูกวัดวัดคลองลำเลียง ซึ่งเป็นพระที่ถูกด่าที่ปรากฏอยู่รูปทางด้านขวามือในคลิป โดย น.ส.ไอลดาฯ ได้นำไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่หน้า รพ.ตรัง (เขตเทศบาลนครตรัง)
น.ส.ไอลดาฯ กล่าวว่า ช่วงเช้าจะมีพระยืนอยู่ 2 รูป ซึ่งรูปที่เป็นพ่อของตนมายืนก่อน โดยต่างยืนกันคนละฝั่ง โดยที่พ่อตนไม่สบาย ไม่ได้มายืนบาตรตรงนี้ประมาณ 1 ปี กว่า ๆ แล้ว ทำให้พระรูปดังกล่าว ซึ่งเป็นพระวัดควนขัน ต.ควนขัน จ.ตรัง ที่เป็นคนด่ามายืนแทนที่
โดยที่พ่อของตนเพิ่งจะกลับมายืนได้ 2 วัน คือเมื่อวาน (1 ก.พ.) และวันนี้ และตอนนี้ที่เกิดเหตุตนยืนอยู่ด้วย พระรูปนั้นก็ได้มายืนด่าพ่อตน โดยด่าถึงบุพการี และถ้อยคำหยาบคาย และมากล่าวหาว่า ไม่มีบัตรพระบ้าง อะไรบ้าง รวมทั้งด่าเสีย ๆ หาย ๆ เวลาประมาณ 2 - 3 นาที แต่ตนได้ถ่ายคลิปไว้ได้เพียงแค่นั้น สาเหตุตนคิดว่า เพราะพระรูปดังกล่าวไม่พอใจในเรื่องของรายได้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาใส่บาตร ก็จะใส่ปัจจัยมาให้ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้รายได้ของพระรูปนั้นรายได้ลดลงไป หากพูดง่ายตามประสาชาวบ้านก็ คือขัดผลประโยชน์กัน และยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน
ที่ตนโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพราะรู้สึกแย่ คนที่อยู่ในผ้าเหลือง สำหรับเราชาวพุทธ คนที่จะมาใส่บาตรเขาไม่ได้ศรัทธาในตัวพระ แต่ศรัทธาในศาสนา และใครจะใส่บาตรคนไหน อยากจะไปวัดไหน ก็เป็นสิทธิของเขา และไม่สามารถไปบังคับใครได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ดูแล้วไม่เหมาะสม ไม่น่าจะอยู่ในผ้าเหลือง เพราะคนในผ้าเหลืองต้องสำรวม ซึ่งในการโพสต์ไม่ได้อยากได้ยอดแชร์ ยอดไลน์ และที่ทราบมาคือเมื่อวานนี้ พระรูปดังกล่าวก็ได้ด่าพ่อตนแล้วด้วยเป็นครั้งที่ 2
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ พระยรรยง รัตนมงคลศักดิ์ หรือ หลวงกุ๊ก อายุ 52 ปี พระลูกวัดควนขัน บวชประมาณ 10 พรรษา ซึ่งเป็นพระที่ปรากฏในคลิปทางด้านซ้ายมือที่เป็นด่า กล่าวว่า ตนไม่เคยรู้จักกับหลวงศักดิ์มาก่อน แต่เคยได้ยินข่าวคราวมาบ้าง
โดยเมื่อก่อนหลวงศักดิ์ ยืนบิณฑบาตอยู่หน้า รพ.ตรัง แต่ได้หายไปประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ก่อนจะกลับมายืนใหม่ ซึ่งตนก็ได้ยืนบิณฑบาตอยู่หน้า รพ.ตรังได้ประมาณ 2 เดือน พอหลวงศักดิ์กลับมาครั้งนี้ ก็มายืนดักหน้าอาตมาเลย และจะชอบเดินไปเดินมา
ซึ่งเมื่อญาติโยมเดินออกมาจาก รพ.ตรัง ก็จะมาใส่กับหลวงศักดิ์ เนื่องจากยืนอยู่ตรงกับทางม้าลาย ถ้าหากแกยืนอยู่ที่แก อาตมายืนที่อาตมา ก็จะไม่มีปัญหา แต่นี่แกกลับเดินไปมา ตัดหน้า เพื่อดักญาติโยมเพื่อให้ใส่กับแก อาตมาก็พูดดี ๆ แล้วว่า อย่าเดินไปเดินมา แต่แกก็ยังกระทำเหมือนเดิม และตนก็ได้ถามว่า เมื่อก่อนนี้หลวงศักดิ์ เคยโดนจับสึกมาก่อน เพราะแกไปลวนลามลูกศิษย์ ซึ่งเป็นหญิงสาว จนแกเคยโดนแฟนของหญิงสาวรายนั้นมาทำร้าย จนมีการสึกออกจากผ้าเหลือง
ซึ่งก็อยากเรียกร้องให้ทางเจ้าคณะอำเภอ เข้ามาตรวจสอบด้วยว่า หลวงศักดิ์ เป็นพระจริง มีใบสุทธิหรือไม่ เหตุการณ์เกิดขึ้นยอมรับว่า โมโห และยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน ยอมรับว่า ไม่เหมาะสม เพราะไม่เหมาะสม แต่พูดดี ๆ กันแล้วกลับไม่ฟัง
ขณะที่ พระมหานุกูล นารโท เจ้าอาวาสวัดควนขัน กล่าวว่า ตนก็ได้เห็นคลิปแล้ว ก็เห็นว่าหลวงกุ๊กใช้วาจาคำหยาบไป ก็ได้เรียกพระกุ๊กมาตักเตือน เรื่องการใช้คำหยาบแล้ว เพราะไม่เหมาะสม ต่อไปก็จะต้องให้ใช้วาจาที่สุภาพ
เพราะการเป็นพระ จะต้องใช้วาจาที่สมณะ เป็นพระต้องมีวินัยของพระ เป็นสมณสารูป ในทางพระการ กระทำแบบนี้มีความผิด ทาง ปาจิตตีย์ 1 ใน 92 ข้อ อยู่ในหมวดคำพูด คือ "วิวาทวรรค" แต่โทษไม่รุนแรงเท่าไร โทษขั้นแรกสุดคือ "การว่ากล่าวตักเตือน"
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจะได้มีการสอบถามไปทาง พระพัน ฉันทโก หรือ หลวงศักดิ์ ที่มีการถูกกล่าวหาว่า ไม่ได้เป็นพระจริง เนื่องจากถูกจับสึก และปาราชิกไปแล้วว่า เป็นจริงตามการกล่าวหาหรือไม่อย่างไร ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ชมคลิปเหตุการณ์