จากกรณีรถตู้โดยสารประสบอุบัติเหตุเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100-99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พ่อหนูน้อย 7 ขวบ ปล่อยโฮ ชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว
22 มกราคม 2566 สามีของ น.ส.ดวงนภา จารุไชย เดินทางมาถึง สภ.สีคิ้ว เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของภรรยาและน้องน้ำขิง ลูกสาววัย 7 ขวบ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดหลักฐานออกมา ก็ต้องร้องไห้โฮ และโผเข้ากอดญาติ เพราะพ่อจำกระเป๋าของลูกสาวได้แม่นยำ ก่อนจะเดินไปที่ซากรถตู้คันเกิดเหตุ เพื่อตรวจดูสิ่งของของภรรยาและลูกสาว พบว่ายังมีเสื้อผ้าและกระเป๋าเดินทางหลงเหลืออยู่บริเวณเบาะนั่งแถวที่สามติดหน้าต่าง
สามีของน.ส.ดวงนภา เปิดเผยว่า ภรรยาและลูกสาวกำลังจะเดินทางไปหาตนเองที่กรุงเทพมหานคร เพราะตนเองทำงานอยู่ที่นั่น ส่วนลูกสาวก็เรียนในชั้นอนุบาลอยู่ใน กทม. ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุนี้กับครอบครัวตนเอง หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว
นำร่างผู้เสียชีวิตพิสูจน์อัตลักษณ์ นิติเวช รพ.ตำรวจ
ขณะที่ทางมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หรือ ฮุก 31 จะประสานนำรถกู้ภัยในพื้นที่จำนวน 11 คัน เพื่อช่วยเหลือเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลสีคิ้ว ไปโรงพยาบาลตำรวจ เวลาประมาณ 9.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2566
ทางด้านเจ้าหน้าที่ขอให้ญาติที่จะเข้ารับการตรวจดีเอ็นเอ ในขั้นตอนพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจในวันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) หรือประสานเดินทางไปพร้อมกับตำรวจ สภ.สีคิ้ว และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย ประกอบด้วย
มีผู้รอดชีวิต 1 ราย คือ นายธนชิต กิ่งแก้ว อายุ 20 ปี
ผู้รอดชีวิตเล่า ได้ยินเสียงกรีดร้อง ก่อนรถพลิกคว่ำ
นายธนชิต กิ่งแก้ว ผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางจาก บ้านกุงไชย ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ขึ้นรถตู้ในเวลาบ่ายโมง จะเข้ากรุงเทพไปหาแม่ ตนเองนั่งบริเวณเบาะตรงกลางของรถ ออกเดินทางมาเรื่อย ๆ พักรถครั้งสุดท้าย ที่ปั๊มน้ำมัน พยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม และเดินทางต่อ จนมาถึงช่วง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ขณะนั้นตนเองนอนหลับ และสะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงผู้หญิงกรีดร้อง
จากนั้นรู้สึกว่ารถมีการไถลลงข้างทาง และไฟก็ลุกไหม้ทันที ตนเองรีบคลานออกมาทางหน้าต่างที่กระจกแตก และยืนดูอยู่ริมถนนประมาณ 10 นาทีทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะมีรถก็ภัย มาถึงที่เกิดเหตุ และนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตนเองได้นับบาดเจ็บที่เท้าเล็กน้อย เพราะมีเศษกระจกบาด
ลูกสาวเจ้าของรถตู้ เผย คนขับชินทาง ประสบการณ์ 7 ปี
ด้าน น.ส.เบญจวรรณ โพธาริน ลูกสาวเจ้าของรถตู้เช่าเหมา เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุประมาณเวลา 22.30 น. ของวันที่ 21 มกราคม ซึ่งขณะนั้นยังไม่แน่ชัดว่ารถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นรถของบริษัทหรือไม่ จึงยังไม่ได้ออกเดินทางมายังที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างรอตรวจสอบกับกรมทางหลวง หลังจากนั้นพอทราบว่าเป็นรถของทางบริษัทตนเองก็เดินทางมาทันที
เบื้องต้นรถตู้คันเกิดเหตุก่อนออกเดินทางจะมีการตรวจสภาพอยู่เสมอเนื่องจากเป็นรถที่ขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานขนส่งที่มีการเรียกตรวจทุก 6 เดือน และทางบริษัทรถตู้เองก็มีการตรวจสอบรถอยู่เป็นประจำ ในส่วนของคนขับ ทางบริษัทก็จะเซฟคนขับด้วยวิธีการให้ขับสัปดาห์ละ 2 วัน จะขับ 1 วัน พัก 3 วัน ส่วนกรณีนี้คนขับเพิ่งเริ่มขับรถเป็นเที่ยวแรกของสัปดาห์
ซึ่งคนขับรายนี้ขับรถเส้นทางอำนาจเจริญ-กรุงเทพฯ มาแล้วประมาณ 7 ปี จะคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดี ส่วนการตรวจสอบคนขับพบว่าไม่มีโรคประจำตัว และก่อนออกเดินทางไม่ได้มีการดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนที่คนขับจะเดินทางไปรับรถที่บริษัทก็ไม่พบว่ามีอาการผิดปกติใด ๆ ทางด้านร่างกาย
ประกันจ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 1 ล้าน
ทางด้านของการเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเบื้องต้นได้พูดคุยกับทางประกันภัยแล้ว ยังต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์ให้แล้วเสร็จ เบื้องต้นประกันจ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ส่วนคนขับรถยังต้องรอตรวจสอบ หากพบว่าเกิดจากการประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ก็จะจ่ายอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท
สำหรับรถตู้เช่าหมาคันนี้ มี 13 ที่นั่ง รับผู้โดยสาร มาทั้งหมด 11 คน รวมคนขับเป็น12 คน ต้นทางออกจาก จ.อำนาจเจริญ ใช้เส้นทาง อำนาจเจริญ เข้าสู่ จ.ยโสธร เข้า อำเภอพยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ออกเส้นทาง อ.ปะทาย จ.นครราชสีมา ก่อนจะเข้าถนนมิตรภาพเพื่อมุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร
เปิดข้อมูล หจก.มนตรี ทรัพย์เจริญ เจ้าของรถตู้มรณะ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายมนตรี โพธารินทร์ อายุ 48 ปี ผู้จัดการ หจก. มนตรี ทรัพย์เจริญ จำกัด ตั้งอยู่ใน อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ พบว่าบ้านที่ตั้งสำนักงาน หจก.ปิดเงียบ
สอบถามนายไพศาล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า นายมนตรี ไม่อยู่บ้านเนื่องจากไปกับรถ 6 ล้อ ที่มีผู้รับเหมาไปส่งพัทยา และจะกลับมาถึงบ้านประมาณช่วงเช้า วันที่ 23 มกราคม สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนายมนตรี ทราบเรื่องแล้ว และได้ให้ตัวแทนรวบรวมเอกสารหลักฐาน เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อหาทางเยียวยาและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ หจก.มนตรี ทรัพย์เจริญ ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีรถตู้วิ่งร่วมจำนวน 6 คัน, รถ 6 ล้อ 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน จะวิ่งรับผู้โดยสารจาก อำนาจเจริญ - กทม. ขาลง วันเสาร์-วันอังคาร ขาขึ้น วันอาทิตย์-วันพุธ รถทุกคันจะมีประกันชั้น 2 ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นคนในเขตพื้นที่ อ.ลืออำนาจ
สำหรับคันที่ประสบอุบัติเหตุ จะเป็นช่วงขาลงรับผู้โดยสารที่เสียชีวิต 11 คน จะมีคนใน ต.ดงบัง อ.ลืออำนาจ 8 คน , อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ 3 คน และ ต.เหล่าเสือโก้ก อ.เหล่าเสือโก้ก จ. อุบลราชธานี 1 คน ส่วนผู้รอดชีวิต เป็นคนบ้านกุงชัย ต.เปลือยหัวดง อ. ลืออำนาจ