
26 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายทหาร 3 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่ม และเป็นกำลังพลชุดเเรกที่ค้นหาร่างเจอพร้อมกัน 6 นาย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตที่เกาะกลุ่มกัน ในบรรดาทหาร 6 นาย ที่พบร่างห่างจากเรือหลวงสุโทัยกว่า 30 กิโลเมตร
โดยนายทหาร 3 รายเเรก ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ส่วนอีก 3 นาย จัดพระราชทานเพลิงศพที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ จ.ชลบุรี ประกอบไปด้วย พลเรือตรี สามารถ แก้วผลึก อายุ 49ปี (ยศเดิม ว่าที่เรือเอก ) สรั่งช่างกล แผนกช่างกล เรือหลวงสุโขทัย กองเรือยุทธการ, นาวาตรี อัชชา แก้วสุพรรณ์ อายุ 42ปี (ยศเดิม พันจ่าเอก) ช่างโซนาร์ แผนกอาวุธและการเรือ และ นาวาตรี อำนาจ พิมที อายุ 51 ปี (ยศเดิม พันจ่าเอก) พลขับหมู่ตรวจการหน้าที่ 1 หน่วยอากาศยานต่อสู้รักษาฝั่ง โดยมีครอบครัว บรรดาญาติ เเละเหล่านายทหารเรือ มาร่วมไว้อาลัยกันอย่างเนืองเเน่น
จากนั้นเวลา 14.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เเละคณะเดินทางมาถึง จากนั้นมีพิธีเเห่ศพรอบฌาปนสถาน ทหารกองเกียรติยศร่วมสดุดี จากนั้นอ่านสดุดี เหล่าทหารกล้า เเละหมายพระราชพิธี จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เเละบรรดา ครอบครัว บุตร ธิดา ของนายทหารกล้าของเเต่ละนาย อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นประธาน อันเชิญธูปเทียน วางดอกไม้จัน จุดไฟพระราชทาน มอบธงไตรรงค์ เพื่อเกียรติสูงสุดเเก่ตรอบครัว เเละมอบเงินช่วยเหลือตามเกณฑ์ของกองทัพ
โดยระหว่างพิธี ตัวเเทนกองทัพได้กล่าวเเสดงความเสียใจ สร้างขวัญกำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ระบุว่า "กองทัพเรือเข้าใจในความสูญเสีย เเต่กองทัพเรือก็เสียบุคลากรที่มีคุณภาพ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ผู้พลีชีพเหล่านี้ล้วนเป็นทหารกล้า เมื่อตัดสินเข้ามาในรั้วของทหาร นั่นหมายถึงตัดสินใจที่จะพลีชีพเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกลมหายใจ ตายในหน้าที่ ด้วยเกียรติของทหาร " "ต่อให้ต้องพลีชีพอีกกี่ร้อย ก็จะคอยปกป้องมาตุภูมิ"
สำหรับนายทหารที่เสียชีวิต ได้รับการเลื่อน 5 ขั้นยศ และการเยียวยากำลังพลที่เสียชีวิต พลเรือตรีสามารถ แก้วผลึก ได้รับเงินจากทางราชการ รวม 2 ล้านบาท, นาวาตรี อำนาจ พิมที ได้รับเงินจากทางราชการ รวม 1 ล้านบาท, นาวาตรี อัชชา แก้วสุพรรณ์ ได้รับเงินจากทางราชการ 1 ล้านบาท