7 ธันวาคม 2565 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พนักงานสอบสวน ได้มีการสอบปากคำเบื้องต้น นายประพันธ์ มากพงษ์พะเนาว์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องคดีลักทรัพย์ ที่ก่อเหตุเข้าไปขโมยรูปปั้น “พระนารายณ์” ประจำสำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นางบุญนิธิ ทองรักษ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักงานอุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รูปปั้น “พระนารายณ์” ที่ประดิษฐาน ณ ศาลหน้าสำนักงาน ได้หายไปตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุ นายวศิน ศุภพิสุทธิ์ อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ตน เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ จะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
โดยรูปปั้น “พระนารายณ์” องค์นี้ ถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจ ต่อข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประจำสำนักอุตสาหกรรมจังหวัดมาก เนื่องจากได้รับมอบจากกระทรวงอุตสาหกรรม ก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ที่ช่วยติดตามมาเก็บรักษาและกราบไหว้บูชาต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้ง คนร้ายเข้าไปลักขโมยพระพุทธรูปนารายณ์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว แกะรอยจากกล้องวงจรปิด และติดตามไทม์ไลน์ต่าง ๆ จนกระทั่งทราบว่า พระพุทธรูปดังกล่าว ถูกนายประพันธ์ ผู้ต้องหาขโมยไปขายให้กับแผงพระ จึงได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา และนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพจึงขอเตือนส่วนราชการ ประชาชนทั่วไป ได้ระมัดระวังทรัพย์สินให้เข้มงวด รัดกุม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพมาลักขโมย
ด้านนายประพันธ์ ผู้ต้องหา กล่าวว่า เหตุจูงใจที่ทำให้ตนก่อเหตุลักขโมยพระพุทธรูปครั้งนี้ เนื่องจากเกิดอารมณ์ชั่ววูบ โดยก่อเหตุในคืนวันที่ 23 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 02.00 น. พอขับรถจักรยานยนต์ผ่านด้านหน้าสำนักงานอุตสาหกรรม มองข้ามกำแพงเห็นพระพุทธรูป จึงเกิดความคิดที่จะเอาไปขาย เพื่อเอาเงินไปแทงบอลโลก โดยเอาไปขายที่แผงพระตลาดเกษตรราคา 100 บาท
ยืนยันไม่เคยก่อเหตุมาก่อน เหตุที่ทำลงไปเพราะตนตกงาน เกิดอารมณ์ชั่ววูบ และอยากได้เงินไปแทงบอลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนขอสารภาพผิด พร้อมกราบขอโทษพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายประพันธ์ ผู้ต้องหา ตรวจปัสสาวะ พบผลเป็นสีม่วง และส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าว : จักรพงษ์ ระวิวรรณ จ.กาฬสินธุ์