2 พฤศจิกายน 2565 นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีต รอง ผกก.สันติบาล เดินทางขอเข้าพบ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ต้องหา 28 ราย ที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ ซ่องโจร และทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีบุกยึดครอบครองกิจการ ตลาดสุรนครเมืองใหม่ ที่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ ตลาดสุรนารี เขตเทศบาลนครราชสีมา ซึ่งมีห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โคราชอาสาคอนสตรัคชั่น ในฐานะได้สิทธิบริหารกิจการตลาด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 - 7 ธ.ค. 63 และ วันที่ 1 - 2 ธ.ค. 64
นายสันธนะ เปิดเผยภายหลังการปิดห้องคุยกับ พล.ต.ท.สมประสงค์ นานร่วม 1 ชั่วโมง ว่า เดินทางมาสอบถามการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เหตุร่วมกันทุบทำลายทรัพย์สินของ หจก.โคราชอาสาคอนสตรัคชั่น ซึ่งตนได้มอบอำนาจให้ติดตามคดี โดยคดีนี้ อัยการจังหวัดนครราชสีมา มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 28 ราย ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา
แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งอัยการ ซึ่งมีผู้ต้องหา 2 ราย เป็นข้าราชการตำรวจ และเป็นสิทธิจะปฏิเสธหรือรับสารภาพ แต่ยังไม่ดำเนินการแต่อย่างใด ขณะนี้ ผบช.ภาค 3 ทราบปัญหาอุปสรรคเบื้องต้น ตนก็จะติดตามพร้อมทำหนังสือเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนสิทธิการครอบครองกิจการตลาด เป็นปัญหาภายในเกิดขึ้นระหว่างทายาท ที่แบ่งกลุ่ม แบ่งก๊ก ต้องรอจนกว่าจะมีข้อยุติใครมีสิทธิโดยชอบ หากมาขอความช่วยเหลือ ตนก็พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตลาดสุรนครเมืองใหม่ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อตลาดสุรนารี ถือเป็นตลาดกลางค้าส่งพืชผักและผลไม้ใหญ่ ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา ถือเป็นมหากาพย์ข้อพิพาทผลประโยชน์เดือนละกว่า 10 ล้านบาท จนกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งบานปลาย ระหว่างบุคคลในตระกูลเดียวกัน
ผู้เช่าที่มีทั้งกองเชียร์และกองแช่ง ติดตามความเคลื่อนไหวปัญหาความขัดแย้ง ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง คู่ขนานกับการจ้างวานผู้มีอิทธิพล นำกำลังบุคคลภายนอกเป็นชายฉกรรจ์ชุดดำ เข้าบุกยึดครองการบริหารจัดการตลาดหลายครั้ง จนผู้ประกอบการและประชาชน ต่างเอือมระอากับพฤติกรรรมนอกรีต ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ผลัดเปลี่ยนมารักษาความสงบเรียบร้อย
ล่าสุดศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้จำเลย บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ชำระเงิน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่าเสียหายเดือนละ 9 แสนบาท นับตั้งแต่วันฟ้อง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2537 เป็นต้นไป รวมเป็นเวลา 28 ปี จนถึงขณะนี้เป็นเงินที่ต้องชำระ 740 ล้านบาท
ข่าว : เกษม ชนาธินาถ จ.นครราชสีมา