ตำรวจมุ่ง 3 ปม เผาอำพรางหนุ่ม 23 ปี แม่ไม่เชื่อปลิดชีพตัวเอง (คลิป)

11 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้ากรณีที่พบศพ นายธนทัต จันทร์แก อายุ 23 ปี ถูกเผาเสียชีวิตภายในบริเวณโรงเรียนบ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่วันที่ 10 ต.ค.65 หลังกลับจากต่างประเทศพร้อมครอบครัวได้เพียงวันเดียว โดยสภาพศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ถูกไฟไหม้ทั้งเสื้อยืดและกางเกง ลามไปจนถึงผิวหนังบริเวณท้อง แผ่นหลัง ที่ศรีษะมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกของแข็ง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• เผาอำพรางศพหนุ่มเพิ่งกลับจากเยอรมนี ญาติยันไม่มีศัตรู เร่งแกะรอยวงจปิด
• เปิดวงจรปิด ภาพสุดท้ายหนุ่มกลับจากเยอรมนี ก่อนถูกเผาอำพราง
   

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (11 ต.ค.65) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ก็ได้ลงพื้นที่หาข้อมูล และภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งภายในโรงเรียน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นข้อมูลในการคลี่ปมเหตุการณ์ดังกล่าว 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงวงจรปิดที่เห็นผู้ตายเดินผ่านหน้าร้านค้าข้างบ้านก่อนจะหายตัวไปเท่านั้น ส่วนวงจรปิดจุดอื่นยังไม่พบ ส่วนวงจรปิดที่โรงเรียนใช้การไม่ได้ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนเตรียมส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง และคลี่ปมการเสียชีวิต 

ในเบื้องต้นประเด็นการเสียชีวิตของ นายธนทัต เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ชิงทรัพย์, ความขัดแย้งส่วนตัว และฆ่าตัวตาย ซึ่งก็ต้องผลการตรวจชันสูตรศพและข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะบรรยากาศที่บ้านของผู้เสียชีวิตก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติและชาวบ้านมาคอยให้กำลังใจทั้งแม่และภรรยาของผู้ตายอย่างต่อเนื่อง เพราะต่างก็ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะภรรยา ซึ่งมีลูกสาววัย 3 ขวบกับผู้เสียชีวิต ยังร้องไห้ตลอดเวลา เพราะทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีในวันเกิดของตัวเอง

จากการสอบถาม นางพรพรรณ กลั่นประโคน แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายไปอยู่กับตนเองที่ประเทศเยอรมันได้ 3 ปี เพิ่งจะกลับมาบ้านที่ไทยได้วันเดียวก็มาพบเป็นศพถูกเผาเสียชีวิต ส่วนตัวไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร เพราะตั้งแต่ลูกชายไปอยู่ที่ต่างประเทศก็ไม่เคยเห็นติดต่อกับใคร นอกจากลูกและภรรยา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาขัดแย้งกับใครได้ 

" เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะฆ่าตัวตายเอง เพราะลูกไม่ได้มีความเครียดอะไร  ไม่เคยเล่าปัญหา หรือระบายอะไรให้ฟัง  ถ้าจะคิดสั้นก็น่าจะทำตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศก็ได้ และลูกเป็นคนที่รักตัวเองมากเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าตัวตาย ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งสาเหตุ และติดตามตัวผู้ก่อเหตุฆ่าลูกชายมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย " นางพรพรรณ มั่นใจว่าต้องเป็นเหตุฆาตกรรม

ด้าน น.ส.ยุพาภรณ์ เกษาโร หรือก้อย ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุก็เป็นวันเกิดของตัวเอง ซึ่งทางครอบครัวก็มีการกินเลี้ยงสังสรรค์กันในครอบครัวญาติพี่น้อง ก็ไม่เห็นสามีจะผิดปกติอะไร และไม่เห็นสามีรับโทรศัพท์ใคร แต่หากจะส่งข้อความมานัดให้ออกไปหาอันนี้ตนไม่ทราบ เพราะไม่สามารถเข้าดูมือถือของสามีได้ ตอนนี้ได้ให้มือถือกับตำรวจไปตรวจสอบแล้ว แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสามีจะฆ่าตัวตาย น่าจะถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้วเผาศพอำพรางมากกว่า แต่เพราะสาเหตุอะไรก็ต้องรอข้อมูลจากทางตำรวจ ก็อยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวและยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ
 

ชมคลิป : เปิดใจแม่ ไม่เชื่อลูกปลิดชีพตัวเอง ตำรวจมุ่ง 3 ปม เผาอำพรางหนุ่ม 23 ปี

 พยานเห็นเดินไปกดตู้น้ำมัน ก่อนพบถูกเผา 

ขณะที่ พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 

จากการตรวจในที่เกิดเหตุพบขวดพลาสติก ถูกเผาละลายในที่เกิดเหตุ พบฝาเครื่องดื่มน้ำชา 1 ฝา และพบไฟแช็ค หล่นอยู่ข้างที่เกิดเหตุ 1 อัน จากนั้นได้ไปเก็บตัวอย่าง DNA ของหัวจ่ายน้ำมัน ที่ปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญภายในหมู่บ้าน หลังมีพยานเห็นผู้เสียชีวิตเดินไปที่ปั๊มน้ำมัน แล้วเดินกลับไปทางโรงเรียน ซึ่งตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบ

นางสำเภา กริดรัมย์ ชาวบ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตอนนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. นั่งอยู่บริเวณสามแยกกับเพื่อนบ้านหลายคน เห็นนายธนทัต เดินมาคนเดียว มุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมันในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นปั๊มแบบหยอดเหรียญ 

จากนั้นนายหนำ ได้เดินย้อนกลับมาลักษณะเหมือนจะถือขวดอะไรบางอย่าง แนบกับอกมาด้วย แต่ไม่ได้สนใจ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รู้จักนายธนทัต มาก่อน เพราะเป็นเพียงเขยอยู่หมู่บ้านนี้ ส่วนสาเหตุการถูกเผาไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า คดีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้ความสนใจและจะเดินทางมาติดตามคดีในวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.)

ข่าวและภาพ : สุรชัย พิรักษา, เรืองรุจ วังแจ่ม 
สำนักข่าวเนชั่น จ.บุรีรัมย์