ถ้ำหลวงฯ ประกาศปิดต่อ 1-15 ต.ค.นี้ หลังเกิดฝนตกหนัก หวั่นซ้ำรอยหมูป่า

จากกรณีอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ได้ปิดปรับปรุงภายในเพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2565  และเคยมีกำหนดจะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 นั้น

ล่าสุด นางรุ่งศรัณย์ บันลือศักดิ์ชัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวงฯ อีกครั้ง หลังเกิดลมมรสุมและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณถ้ำและสระมรกตหรือขุนน้ำนางนอน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นทางอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จึงประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานตั้งแต่วันที่ 1-15 ต.ค.นี้ ประชาชนยังสามารถติดต่อประสานงานหรือสอบถามที่ทำการอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้ตามปกติ

ทั้งนี้ก่อนหน้าทางอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้ก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่วภายในอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งการก่อสร้างอาคารต่างๆ การปรับภูมิทัศน์ ป้าย ถนน ฯลฯ ทำให้เคยมีการประกาศปิดหลายครั้งโดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด จนกระทั่งมีการประกาศปิดอีกครั้งระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2565 และก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะจุดที่ต้องเดินขึ้นเนินซึ่งมีการสร้างเป็นบันไดจากจุดจอดรถไปยังบริเวณปากถ้ำและโถงที่ 1 ของถ้ำหลวง รวมทั้งก่อสร้างทางสำหรับผู้พิการที่ต้องใช้ล้อเข็นและมีราวจับเพื่อความสะดวก  

สำหรับถ้ำหลวงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกหลังเกิดเหตุการณ์เยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าประสบเหตุติดอยู่ในถ้ำเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2561 ทำให้มีการระดมกำลังกันหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศเข้าให้การช่วยเหลือจนสามารถช่วยเยาวชนทั้งหมดออกมาได้ทั้งหมดในวันที่ 11 ก.ค.ปีเดียวกัน และหลังเหตุการณ์ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับผู้คนจากทั่วโลกที่พากันไปเยือนโดยเฉพาะช่วงแรกอย่างคับคั่ง จนอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้ระดมศิลปินสร้างศาลาอนุสรณ์สถานภายในมีภาพวาดเกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วยเหลือและหล่ออนุสาวรีย์นาวาตรีสมาน กุนันท์ หรือ “จ่าแซม” ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ช่วยเหลือเยาวชนทั้ง 13 คน จนกระทั่งเกิดวิกฤติโควิด ทำให้มีการปิดไปพักใหญ่ก่อนจะกลับมาเปิดและทำการพัฒนาภายในเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง