ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา (18 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูฯ จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีอุบัติเหตุเรือของนักท่องเที่ยวทั้งหมด 6 คน ลงไปตักปูแป้น และถูกพายุฝนตกหนัก ทำให้เรือจม ตอนนี้ยังไม่ทราบผู้บาดเจ็บ และสูญหาย โดยเหตุเกิดบริเวณใกล้เคียง สะพานวัดอารักขเทวดา แหลมประดู่ ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ หลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันประสานนำเรือออกช่วยกันค้นหาทันที
เบื้องต้นชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขึ้นมาได้ทั้งหมด 4 ราย หนึ่งในสี่มีเด็กชายอายุ 11 ขวบ รวมอยู่ด้วย ส่วนรายที่ 5 เป็นหญิงหมดสติ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการทำฟื้นคืนชีพ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายภายในน้ำอีก 1 ราย ทราบเพียงตือ นายต่อ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 40 ปี โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน ได้ช่วยกันนำเรือออกค้นหา แต่ก็ต้องยุติลงในช่วงกลางดึก เนื่องจากมีพายุฝนตกลงมาอย่างแรง ประกอบกับกระแสน้ำเชี่ยวกราด จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้าน จึงต้องยุติการค้นหาไว้ก่อน
ทั้งนี้ จากการสอบถาม น.ส เกวลิน ชุนทอง อายุ 28 ปี ผู้ที่รอดชีวิต ทราบว่า ทั้งหมดที่ลงเรือเดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี และได้ลงเรือ เพื่อที่จะออกไปตักปูแป้น โดยมากันทั้งหมด 6 คน รวมคนขับเรือ แยกเป็นชาย 4 คน และหญิงอีก 2 คน โดยคนขับเรือซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรศักดิ์ เจริญสุข หรือโอม อายุ 38 ปี ส่วนเรือที่ใช้เป็นเรือมาส ติดตั้งเครื่องหางยาว ซึ่งขณะเกิดเหตุพายุฝน น้ำได้เข้าเรือ ตนเองจึงขยับถอยหลังไปด้านท้ายเรือ แล้วก็มีน้ำไหลเข้าจากช่วงท้าย จนทำให้เรือจม ตนเองรอดมาได้ เพราะเกาะเสื้อของคนขับเรือ
นอกจากนี้ยังมีชาย ที่อยู่ในเหตุการณ์อีกหนึ่งราย และรอดชีวิตมาได้ โดยขณะนี้ยังคงอยู่ในอาการตกใจ ซึ่งได้ได้เล่าเหตุการณ์สอดคล้องกันว่า ขณะเกิดเหตุมีพายุฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ทำให้น้ำเข้าเรือ จนทำให้เรือจม จากนั้นก็แยกกันเอาชีวิตรอดเป็นคู่
ทางด้านคนขับเรือคือ นายสุรศักดิ์ เจริญสุข หรือโอม อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในระหว่างวิ่งเรือกลับเข้าฝั่ง และเมื่อเรือวิ่งมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ มีลมพัดคลื่นน้ำเข้าเรือ โดยคนในเรือพยายามวิดน้ำออกนอกเรือ แต่น้ำก็ยังเข้าท้ายเรือ และขณะเกิดเหตุสามารถช่วยน้องสะใภ้ได้เพียงคนเดียว เพราะน้องชายบอกว่าให้ผมพาคนนี้ไป แล้วน้องก็ช่วยอีกคนไป แบ่งกันช่วยคนละคน เพราะช่วย 2 คนไม่ได้อยู่แล้ว ชูชีพก็ไม่ได้ใส่ ตักปูมาได้แค่ 3 ตัว คือเมื่อเห็นพายุมา ก็เลยรีบหันหัวเรือกลับ ตอนนั้นก่อนเรือจะจม ได้ร้องตะโกนให้คนช่วย พร้อมกับฉายไฟไปมา เพื่อให้เห็น