สรรพสามิต ปูพรมจับน้ำมันเถื่อนชายแดนใต้ คนขายจมูกไวปิดร้านหนีเงียบ

จากกรณีที่โซเชียลมาการแชร์ภาพการนำน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซีย มาวางขายริมถนน ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมระบุว่า มีนายทุนนำน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียมา วางขายริมถนนในพื้นที่ อ.สะเดา โดยนำขวดลิตร และกรวยมาวางเป็นสัญลักษณ์ว่า ขายน้ำเถื่อน และขึ้นป้ายประกาศราคาชัดเจน เบนซิลลิตรละ 29 - 30 บาท ส่วนดีเซลลิตรละ 29 บาท ต่ำกว่าราคาน้ำมันของไทย

ล่าสุดในวันนี้ (5ก.ย.65) ตามนโยบายของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต , นายวิวัฒน์ เขาสกุล ทปษ.ด้านยุทธศาสตร์ภาษีฯ ได้สั่งการให้ สนง.สรรพสามิต ภาคที่ 9 ให้กวดขัน เข้มงวดการจับกุมปราบปรามสินค้าหนีภาษี และการบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณตะเข็บชายแดนฯ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่ประชาชน ในการบริโภคสินค้าผิดกฏหมาย 

โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 ร่วมกับสรรพสามิต สงขลา สาขาสะเดา ลงพื้นที่ปูพรมตรวจสอบร้านค้า และซุ้มขายน้ำมันริมถนน ที่มีการระบุว่า ลักลอบนำน้ำมันเถื่อนมาขาย ในพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย ทั้งในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ ต.สำนักขาม ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา ต่อเนื่องถึงบางส่วนของ อ.คลองหอยโข่ง

จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่ซุ้มขายน้ำมันทั้งใน อ.สะเดา ปิดชั่วคราวเกือบทั้งหมด แต่สามารถเข้าตรวจสอบและจับกุมได้ 5 ราย ยึดน้ำมันทั้งเบนซิล และดีเซลที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิตราว 200 ลิตร ซึ่งแต่ละรายนำมาขายแค่ 20 - 30 ลิตร

นอกจากนี้จากการนำตัวอย่างน้ำมัน ที่ยึดได้ไปตรวจวิเคราะห์กับรถโมบายแลปพบว่า ส่วนหนึ่งเป็นน้ำมันเถื่อนจริง แต่บางส่วนก็เป็นน้ำมันที่ถูกกฏหมายจากปั้มที่ซื้อไปขายต่อ

ทั้งนี้จากการตรวจสอบร้านค้า และซุ้มขายน้ำมันตามริมถนน ในพื้นที่ อ.สะเดา พบว่า แม้จะมีการนำน้ำมันเถื่อนมาวางขายบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อย เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นำน้ำมันมาแบ่งใส่ขวดใส่แกลลอนขายให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ กลุ่มคนกรีดยางที่มีรายได้น้อย และเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำน้ำมัน จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาขายโดยเฉพาะในกลุ่มนายทุน และจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทุกราย ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง