svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

"บิ๊กโจ๊ก" ลงปิดคดีตายิงเหลนกับเมียดับ มือปืนเผยนาทีก่อเหตุสลด (มีคลิป)

29 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"บิ๊กโจ๊ก" ลงใต้ แถลงปิดคดีตายิงเหลนกับเมียดับคามุ้งที่ห้วยยอด จ.ตรัง ผู้ต้องหาพร้อมเผยนาทีก่อเหตุสลด เหลนและเมีย ตกเป็นทาสยาเสพติด ก่อนลงมือให้โอกาสกลับตัวกลับใจแต่ไม่ยอม จึงตัดสินใจยิงทิ้งทั้งคู่

ความคืบหน้าคดีที่ มีผัวเมียถูกยิงเสียชีวิตปริศนาภายในมุ้งนอน ที่บ้านแห่งหนึ่งใน หมู่ 5 ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง  ซึ่งภายหลังตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ เป็นตาวัย 70 ปี ที่ยิงเหลนชาย และหลานสะใภ้ เสียชีวิต เพราะทนไม่ได้ที่เหลนเมายาบ้า ชอบทำร้ายร่างกายคนในบ้าน ห้ามปรามหลายครั้งก็ไม่ฟัง ทำให้ทุกคนอยู่กันอย่างหวาดระแวง (อ่านข่าว)

 

ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (29 ส.ค.)  พล.ต.ท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อแถลงปิดคดี โดยผู้ก่อเหตุคือ นายภาคภูมิ นิลปักษี หรือ ภาส อายุ 70 ปี ผู้มีศักดิ์เป็นน้าของแม่นายหมากผู้ตาย เป็นคนลงมือก่อเหตุ และถูกจับกุมเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (28 ส.ค.) ที่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 5 ต.บางกุ้ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร ซึ่งผู้ต้องหาวัย 70 ปี สารภาพว่า ทำไปเพราะความโกรธแค้นที่ผู้ตายกับภรรยา ตกเป็นทาสยาเสพติด ชอบลักเล็กขโมยน้อยจนเป็นที่เอือมระอาของคนในชุมชน ที่สำคัญคือชอบทำร้ายพ่อแม่และคนในครอบครัวไม่เว้นแต่ละวัน

 

"บิ๊กโจ๊ก" ลงปิดคดีตายิงเหลนกับเมียดับ มือปืนเผยนาทีก่อเหตุสลด (มีคลิป)
 

ก่อนลงมือยิงผู้ตายกับภรรยาของผู้ตาย ผู้ก่อเหตุได้ให้แม่ของผู้ตายและคนในบ้านออกไปงานศพในอำเภอห้วยยอด เพื่อจะได้ไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงเข้าไปถลกมุ้งที่ผู้ตายกับภรรยานอนอยู่ โดยเอาปืน.38 จ่อหัวหลานชาย และเปิดโอกาสให้ผู้ตายรับปากว่า จะกลับตัวกลับใจไม่ตกเป็นทาสยา และไม่ทำร้ายคนในครอบครัวอีก ซึ่งหากผู้ตายรับปาก ผู้ก่อเหตุก็จะไม่ฆ่าทิ้ง แต่ผู้ตายกลับปฎิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอ และหาว่าถูกปรักปรำ ทำให้ผู้ต้องหาทนไม่ไหว จึงชักอาวุธปืนออกมายิงหลานชายเข้าที่กลางคิ้วทะลุศีรษะด้านซ้ายจำนวน 2 นัดก่อนจะยิงฝ่ายภรรยาเข้าขมับซ้ายจำนวน 1 นัด โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีก่อนจะเดินกลับบ้านรีบถอดเสื้อผ้าให้ภรรยาของผู้ต้องหารีบซักทันที

 

นายภาคภูมิ ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนจะไปถึงไหนช่างหัวมัน ตนแก่แล้ว นึกจะอยู่ก็อยู่ นึกจะไม่อยู่ก็ไม่อยู่ ซึ่งถ้าตนมีปืนนักข่าวก็ไม่มีการมาสัมภาษณ์ตนได้อย่างแน่นอน ซึ่งตนพูดจากใจ เพราะไม่อยากให้เขาไปสร้างความเดือดร้อนให้ตำรวจ เพราะสงสารที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ ส่วนสาเหตุจูงใจคือความโมโห ตนยอมรับว่าเป็นคนใจร้อน ถ้าเรื่องไม่ถูกต้องไม่ได้ ตนเป็นคนจริงไม่ใช่คนบ้า แต่เด็กพวกนั้นมันเหลือขอ เรื่องมันมาก แต่ตนคิดว่าทางภาคใต้ไม่เท่าไหร่ ดูข่าวภาคเหนืออีสานมันสลดถึงหัวใจกับเด็กพวกนี้ ซึ่งปัญหามาจากยาเสพติด หลายครั้งแล้วที่ตนต้องไปตามเคลียร์ เดือนร้อนพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายทุกวันทุกคืน โดยท้าให้ตำรวจสายสืบไปสืบดูพฤติกรรมของหลานคนนี้ของตน

 

 

"บิ๊กโจ๊ก" ลงปิดคดีตายิงเหลนกับเมียดับ มือปืนเผยนาทีก่อเหตุสลด (มีคลิป)
 

นายภาคภูมิ กล่าวอีกว่า ซึ่งก่อนที่ตนจะยิงหลานคนนี้ตนยังถามเขาอีกว่า ตนไม่ใช่เป็นตาแล้วนะตอนนี้ แต่ตนเป็นยมฑูตแล้ว ให้ผู้ตายรับปากว่าต่อไปจะไม่ทำแล้ว แต่ผู้ตายบอกไม่เคยทำอะไรผิด และถูกปรักปรำตนจึงถามผู้ตายซ้ำอีกครั้งว่าเลิกได้มั้ย และถ้าหากผู้ตายไปแจ้งความว่าตนเอาปืนมาจ่อหัว ตนถือว่าเป็นข้อหาเล็กน้อย คงติดคุกไม่เท่าไหร่ แต่มันหมดปัญญาจริง ๆ จึงลงมือก่อเหตุ เพราะคนอื่นเขาหลบได้ เขาหนีได้ แต่ตนชาติทหารนักรบ ส่วนสาเหตุที่ต้องยิงฝ่ายหญิงเพราะมีพฤติกรรมเหมือนกัน คือลักเล็กขโมยน้อย ซึ่งสอบถามชาวบ้านได้ ซึ่งตนอายุ 70 ปีแล้วเคยบวชมาและล้างมือสะอาดแล้วจึงไม่อยากทำแล้ว แต่ทนไม่ไหวจริง ๆ

 

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ เคยต้องคดีมียาเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีน ทำให้ติดคุกนานถึง 30 ปีก่อนจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2545 โดยตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาคือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับการอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน 

 

 

คือ นายภาคภูมิ นิลปักษี หรือ ภาส อายุ 70 ปี ผู้ก่อเหตุ

 

 

พล.ต.ท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจเพราะเป็นคดีอุจอาจที่มีการยิงผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย แต่ถ้าไปดูปัญหาคือปัญหาเรื่องครอบครัว หรือเรื่องยาเสพติด จากการที่ผู้ตายและภรรยาเสพยาเสพติดตลอด งานการไม่ทำ ลักเล็กขโมยน้อย ทำร้ายร่างกายญาติพี่น้องและทุบตีพ่อแม่ บีบคอแม่ ซึ่งตัวผู้ตายอยู่ระหว่างการบำบัด แต่ญาติทนไม่ไหว น้าทนไม่ไหวจึงใช้วิธีการแบบนี้เพื่อแก้ปัญหา วันนี้ตำรวจจึงต้องใช้วิธีการแบบใหม่คือกรณีมีเหตุแบบนี้ แล้วตำรวจมีการรับแจ้งเหตุ ตำรวจต้องเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด เพื่อไม่ให้เหตุมันบานปลายต่อ

 

เพราะฉะนั้นในชุมชน ผู้กำกับต้องรู้ สวป.ต้องรู้ว่าบ้านนี้ มีลูกหลานติดยาเสพติด มีการทะเลาะทำร้ายร่างกายพ่อแม่ กำนันผู้ใหญ่บ้านจะต้องมีข้อมูล ตัวตำรวจเช่นผู้กำกับและ สวป.จะต้องลงไปดูปัญหาและแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เพียงรับแจ้งว่าเป็นเหตุทำร้ายร่างกายธรรมดา ต้องลงไปดูปัญหาว่าคนติดยาอยู่ในพื้นที่ มีการลักเล็กขโมยน้อย ก็ต้องเอาคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ แล้วเข้าสู่การบำบัด ถ้าปล่อยเหตุการณ์ไปแบบนี้จะเห็นได้ว่า มันจะบานปลาย เหตุเล็กจะกลายเป็นเหตุใหญ่โดยเฉพาะคนใต้ใจร้อน

 

อย่างไรก็ตามผู้ต้องหายืนยันที่จะไม่ดำเนินการทำเรื่องขอยื่นประกันตัวโดยเด็ดขาด โดยทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่จะดำเนินการนำตัวฝากขังตามขบวนการของกฏหมายต่อไป

 

 

"บิ๊กโจ๊ก" ลงปิดคดีตายิงเหลนกับเมียดับ มือปืนเผยนาทีก่อเหตุสลด (มีคลิป)

 

 

ฟังเสียงให้สัมภาษณ์ผู้ต้องวัย 70 ปี

logoline