น้ำป่าสาริกา - วังตะไคร้ คลี่คลายแล้ว วันหยุดนี้ ปชช. มาเที่ยวได้ตามปกติ

ความคืบหน้าเหตุน้ำป่าไหลหลากในหลายจุดในพื้นที่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (25 ส.ค.) ส่งผลทำให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่าง ๆ เอ่อล้นตลิ่ง บางจุดสูงเหนือตลิ่งมากกว่า 1-2 เมตร ขณะที่เครื่องส่งสัญญาณ โครงการเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉลับพลัน-ดินถล่ม สะพานวังตะไคร้  ได้ร้องแจ้งเตือน น้ำป่าไหลบ่าผ่านคลองวังตะไคร้ ทำให้น้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร อุทยานน้ำตกนางรอง ติดธงแดง ประกาศแจ้งเตือน ห้ามลงเล่นน้ำ หรือเข้าใกล้ และห้ามใช้เส้นทางที่มีน้ำป่าไหลหลาก โดยเด็ดขาด (อ่านข่าว) 

 

 

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. สถานการณ์น้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ตำบลสาริกาและตำบลหินตั้ง กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ น้ำตามแหล่งน้ำท่องเที่ยวจะกลับมาใส ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าต่างทำความสะอาดร้าน และรีอสร์ทเตรียมรับนักท่องเที่ยว ด้านเจ้าของร้านอาหารริมคลองวังตะไคร้ ฝากถึงนักท่องเที่ยวไม่ต้องตื่นตกใจ น้ำป่าเกิดขึ้นทุกปี น้ำจะมาไวไปไว ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็กลับสู่สภาวะปกติ ชาวบ้านในพื้นที่คุ้นเคยและรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี วอดนักท่องเที่ยวอย่าตกใจ สุดสัปดาห์นี้มาเที่ยวและเล่นน้ำได้ปกติ

 

โดยที่แก่งสามชั้น ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายก อบต.สาริกา ได้เข้าไปดูพื้นที่พร้อมพูดคุยกับผู้ประกอบการหลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก เบื้องต้นพบว่า ระดับน้ำได้ลดระดับลงแค่ขอบตลิ่ง และมีแนวโน้มลดระดับลงเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาซ้ำตั้งแต่ช่วงสายวันนี้ที่ผ่านมา

 

จากนั้นได้เดินทางไปยังสะพานวังตะไคร้ ซึ่งเป็นจุดโครงการเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่ม สถานีเตือนภัย ม.1 บ้านดง ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายกปรากฎว่าไม่มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเหมือนดังตอนเช้า ประกอบกับระดับน้ำ ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับตอนที่ระดับน้ำขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 30.476 เมตร และลดลงมาตอนเวลา 10.30 น. อยู่ที่ 28.706 เมตร โดยใช้ระยะเวลา 4 ชั่วโมง ระดับน้ำลงไปถึง 1.77 เมตร และขณะนี้ก็มีแนวโน้มลดลง
 

 

อย่างที่ตอนนี้เวลา 14.00 น. ผู้ประกอบการร้านค้าริมน้ำคลองวังตะไคร้ ที่อยู่ใต้สะพานก็ได้ออกมาทำความสะอาดร้าน ฉีดล้างดินโคลนที่ถูกกระแสน้ำพัดมากองไว้หลังระดับน้ำลดลงจนต่ำกว่าขอบตลิ่ง โดยมีรถน้ำจาก อบต.สาริกา มาช่วยสนับสนุนฉีดน้ำ อีกทั้งมีกองกำลังทหารจาก รร.จปร. มาช่วยชาวบ้านด้วยเช่นกัน

 

นางสาวฐิติพร มีมงคล เจ้าของร้านข้าวโอ๊ต ริมคลองวังตะไคร้ บอกว่า น้ำป่าได้ไหลบ่าเข้าท่วมตอนเวลาประมาณ 05.00 น. ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะน้ำป่ามาเร็วลดเร็ว หลังจากเกิดเหตุระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงระดับน้ำก็ลดระดับลงไปมากกว่า 1 เมตร โดยตอนที่น้ำไหลเข้าท่วม อยู่ระดับความสูงประมาณหน้าอก ( 1 -1.2 เมตร ) แต่เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงระดับน้ำก็ลดลงแล้วสำหรับตอนนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ( 14.48 น. )

 

เจ้าของร้านข้าวโอ๊ตได้บอกว่าอีกว่า ตนอยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ปกติ เพราะหลังจากเกิดน้ำป่าไม่กี่ชั่วโมงก็จะกลับสู่สภาวะปกติ และที่สำคัญน้ำก็จะใส่ ซึ่งเหตุการณ์น้ำป่าจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี พวกตนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำจะมีความเคยชินกับเหตุการณ์เช่นนี้

 

นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายก อบต.สาริกา บอกว่า ขณะนี้เวลา14.00 น. สถานการณ์ในพื้นที่ตำบลสาริกา ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ด้วยพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งต้นน้ำและพื้นที่สูงทำให้ตอนนี้มวลน้ำได้ไหลลงไปยังพื้นที่ด้านล่างเกือบหมดแล้ว โดยตอนนี้ผู้ประกอบการร้านค้า รีสอร์ท ที่อยู่ติดรมน้ำก็เริ่มทำความสะอาดร้านพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันหยุดที่จะถึงนี้ ทั้งนี้หากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาซ้ำ ก็จะได้เห็นน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ มีความใส

 

ส่วนเรื่องความเสียหายที่ทาง อบต.สาริกา ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่ามีน้ำไหลเข้าท่วมรถบ้างแต่ไม่ได้เป็นปัญหาและไม่นานระดับน้ำก็ลดลงทำให้ไม่มีความเสียหาย ส่วนฝั่งผู้ประกอบการก็จะมีข้าวของนิดหน่อยลอยตามกระแสน้ำไปบ้าง และวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) ผู้ประกอบการร้านค้าริมน้ำก็จะกลับมาเปิดบริการนักท่องเที่ยวได้ปกติ ขณะที่ทาง อบต.สาริกา มีศูนย์บริการคอยรับแจ้งเหตุ โดยมีรองนายก อบต.สาริกาเป็นผู้บัญชาการศูนย์ คาดว่าเวลา 4 - 5 โมงเย็นนี้ ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาวะปกติ ไม่มีน้ำท่วมขังตามพื้นที่ต่าง ๆ

 

ด้านอุทยานน้ำตกนางรอง ด้านหน้าก่อนเข้าน้ำตก สะพานข้ามน้ำในช่วงก่อนเที่ยงยังมีระดับน้ำที่ไหลแรงและท่วมสะพาน แต่ช่วงบ่ายแล้วระดับน้ำเริ่มเบาบางลง แต่อย่างไรก็ตามทางอุทยานน้ำตกนางรองได้ติดป้ายประกาศปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวหรือบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน โดยภาพที่บันทึกไว้ตอนเวลา 12.30 น. ความแรงของกระแสน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลงสู่น้ำตกนางรองยังมีความรุนแรงอยู่พอสมควร ทำให้น้ำมีสีแดงขุ่น อีกทั้งในพื้นที่เจ้าหน้าได้ปักธงแดง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือน ห้ามเล่นน้ำโดยเด็ดขาด และมีป้ายเตือนว่า เมื่อเห็นน้ำในลำธาร ขึ้นเป็นสีแดง หรือได้ยินเสียงแจ้งเตือนให้ขึ้นจากน้ำโดยทันที

 

 

 

 

ส่วนสะพานเข้านางบวช - คีรีวัน เป็นอีกหนึ่งสถานีวัดน้ำ ชื่อ Ny1b สะพานเขานางบวช ตอนเวลา 14.30 น. พบว่า ระดับน้ำอยู่ที่ 9.001 เมตร ล้นตลิ่งอยู่ที่ 19 เซนติเมตร โดยมีระดบัน้ำขึ้นสูงสุดตอนเวลา 13.30 น. อยูท่ที่ 9.022 เมตร จากนั้นระดับน้ำก็ได้เริม่ลดลงตามลำดับ โดยระดับน้ำระดับนี้ยังอยู่ในระดับวิกฤติ ( #ระดับวิกฤต (สีแดง) 8.00 ม. #ระดับเตือนภัย (สีเหลือง) 7.50 ม )

 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนครนายก บริเวณณสะพานข้ามแม่น้ำนครนายก พบกระแสน้ำยังมีความแรง สีดำยังแดงขึ้น แต่ด้วยที่ในเขตเทศบาลเมืองนครนายก ได้มีการทำเขื่อนพนังกั้นน้ำแล้ว 1 ฝั่งทำให้น้ำยังไม่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และระดับน้ำยังไม่ท่วมถึงตลิ่ง และคาดว่าหากน้ำจากส่วนต้นน้ำไหลมาหมดและไม่มีมาเสริมอีก ระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกก็จะค่อย ๆ ลดระดับลง เนื่องจากปลายน้ำจะลงไปสู่แม่น้ำบางประกง