“ทุเรียนน้ำแร่” ที่แรกในเมืองไทย ต้องจองกันข้ามปี

นายสีหเดช เจียเจษฎา นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ และรองประธานสมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย(ภาคเหนือ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว ที่ได้ทดลองปลูกทุเรียนน้ำแร่ ที่สวนธารธนา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นทุเรียนน้ำแร่เจ้าแรกของประเทศไทย ที่นำน้ำแร่มารดให้กับต้นทุเรียน โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่เขาเกิดที่ อ.เบตง จ.ยะลา และได้เรียนรู้วิธีการปลูก รวมถึงการดูแลเอาใจใส่ต้นทุเรียนตั้งแต่เด็กจากพ่อของเขาที่ปลูกทุเรียนมานานกว่า 90 ปี

ในปีนี้ทุเรียนมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ทุเรียนน้ำแร่สายพันธุ์หมอนทอง ทุเรียนสายพันธุ์พวงมณี และสายพันธุ์ก้านยาวลิ้นจี่ รวมแล้วมีผลผลิตอยู่ประมาณ 100 กว่าลูก ซึ่งได้ตั้งราคาสายพันธุ์ก้านยาวลิ้นจี่ไว้ที่ กิโลกรัมละ 2,000 บาท และได้ถูกจองจนหมดแล้ว ส่วนมากลูกค้าที่เคยลองซื้อปีที่ผ่านมา และติดใจรสชาติมีการจองไว้ล่วงหน้าข้ามปี

นายสีหเดช ยังกล่าวอีกว่า ทุเรียนเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำในปริมาณมาก 1 ต้น ต้องใช้น้ำปริมาณ 200 ถึง 300 ลิตรต่อการให้น้ำหนึ่งครั้ง แต่เขาสามารถให้น้ำได้ 400 ถึง 500 ลิตร ต่อการให้น้ำหนึ่งครั้ง เนื่องจากบริเวณหน้าสวนของเขามีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใสสะอาด เปรียบเสมือนเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่ไหลมาจากใต้ภูเขา ดังนั้นจึงเป็นน้ำที่มีคุณภาพ ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และคนในหมู่บ้านไม่มีการใช้ยาฆ่าหญ้า น้ำแร่ธรรมชาติจะมีแร่ธาตุและสารอาหาร ซึ่งเป็นที่ต้องการของพืชเพื่อมาบำรุงต้นและผล ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุเรียนของเขาโดดเด่น และตั้งเป้าว่าจะขายเป็นทุเรียนตลาดพรีเมียมเท่านั้น

ในปีนี้ทางนายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดัง ได้ให้ความอนุเคราะห์พี่น้องมัคคุเทศก์ของจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ที่ได้รับผลกระทบไม่มีงานทำจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งมีมัคคุเทศก์ในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 1,000 คน ที่บัตรมัคคุเทศก์หมดอายุ ทำให้ต้องไปอบรมกว่า 30 ชั่วโมง โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายกว่า 4,000 บาทต่อคน ถึงจะมีสิทธิกลับมาต่อใบอนุญาตได้

โดยนายตัน ได้สั่งจองทุเรียนสายพันธุ์ก้านยาวลิ้นจี่ของเขาในราคา 1 แสนบาท เขาได้นำเงินจำนวนนี้มอบให้แก่ สมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ทั้งหมด เพื่อนำไปเป็นงบประมาณในการจัดอบรมให้แก่มัคคุเทศก์ ไม่ต่ำกว่า 100 คน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งอยู่ระหว่างยื่นขอจัดกาอบรมกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

พร้อมกันนี้ในอนาคตตั้งเป้าจะเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชิมทุเรียนน้ำแร่ และอยากจะให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.แม่ออน และพื้นอำเภอรอยต่อ ทดลองปลูกทุเรียนน้ำแร่บ้านละ 2-3 ต้น เพื่อที่จะได้มีทุเรียนไว้กินเอง หากเหลือก็สามารถขายได้ ที่สำคัญคือทุเรียนน้ำแร่ใน อ.แม่ออน จะให้ผลผลิตและสุกในช่วงเดือนกันยายน ถึง ตุลาคม ซึ่งแตกต่างจากทุเรียนในพื้นที่อื่นที่ส่วนใหญ่ผลผลิตจะหมดในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม โดยพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กให้กับผู้ที่สนใจ