"ผู้การฯ" เผยรู้ตัวแล้ว ตร.ถ่ายคลิปทหารหญิง ด้าน "เจ๊นุช " นอนคุกไม่เครียด

จากกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก. 4 บก.ส.1 ผู้ต้องหาค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกาย ในคดีทำร้าย อดีตทหารหญิงรับใช้ หรือ นางสาว เอ ไม่ได้รับการประกันตัวในศาลชั้นต้น หลังทางญาติและทางตำรวจได้ทำหนังสือคัดค้านการประกันตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องนำตัวส่งเข้าเรือนจำกลางราชบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ส.ค.65 ที่ผ่านมา

ล่าสุดในวันนี้(23 ส.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ที่เรือนจำกลางราชบุรี ทราบว่า แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายผู้ต้องหาแล้ว และส่งตัวเข้าไปอยู่ภายในเรือนจำ ซึ่งเป็นแดนกักตัว ตามมาตรการโควิด - 19 ระบาด เพื่อสังเกตอาการ 5-7 วัน ก่อนจะตัวเข้าไปรวมกับผู้ต้องขังคนอื่นในเรือนจำ ซึ่งเบื้องต้นสภาพจิตใจของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ปกติดี และไม่ได้เครียดอะไรมาก เบื้องต้นอยู่กับผู้ต้องขังอีกคนที่เข้ามาพร้อมกัน แต่คนละคดี โดยมีทีมแพทย์คอยดูแลด้วย

เกี่ยวกับคดีดังกล่าว พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าว่า การดำเนินคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ได้ดำเนินการสอบสวนไปแล้ว ส่วนของตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ในส่วนนี้ได้มีการประชุมติดตามควบคุมคดีทุกวัน มีการติดตามสืบสวนส่วนของคดีต่างๆ โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานที่มีการกล่าวอ้างถึงเราต้องเร่งรัดดำเนินการให้เร็ว ส่วนกรณีใบรับรองแพทย์นั้นในส่วนของผู้เสียหายเราส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายจำนวนหลายครั้งตามคำแนะนำของแพทย์ที่ตรวจรักษาอาการ โดยทุกครั้งที่มีการตรวจจะต้องมีใบรายงาน และจะต้องสอบแพทย์ที่ทำการตรวจว่าวินิจฉัยผลการตรวจแบบไหน จะต้องเข้ารักษาตัวนานเท่าไหร่ ซึ่งจะไปเข้าองค์ประกอบความผิดของกฎหมายตลอดจนใบความเห็นแพทย์ที่ตัวผู้ต้องหาได้เอามายื่นเข้าสำนวนการสอบสวน ตรงนี้เราก็จำเป็นต้องไปสอบสวนแพทย์ผู้ออกใบรับรอง ตรงนี้เร่งรัดอยู่ให้เร็วที่สุด

ส่วนวันนี้มีการนำตัวอดีตทหารหญิงรับใช้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลราชบุรี เป็นส่วนของผู้เสียหายจะตรวจตามกระบวนการ เราจะต้องตรวจหลายส่วน จะต้องไปตามที่หมอนัดมา จะสามารถสรุปสำนวนได้เร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานส่วนอื่นๆอีก ซึ่งได้เร่งรัดทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนที่มีการเก็บเรื่องของวัตถุพยานได้ในที่เกิดเหตุจะต้องนำมาตรวจพิสูจน์ อาจจะต้องมีการสอบพยานบุคคล ผู้ต้องหาอ้างถึงผู้เสียหายกล่าวถึงอีก

สำหรับกรณีมีคลิปตำรวจของราชบุรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น โดยคลิปนี้ ในวันที่มีผู้เสียหายเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน ไม่ได้นำคลิปตรงนี้มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งก็ไม่ทราบ และได้สอบถามแล้ว ทางผู้เสียหายเองก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ภายหลังทราบว่า คุณกัน ได้คลิปตัวนี้มาเผยแพร่ ซึ่งหลังจากเผยแพร่แล้ว ได้ทำการตรวจสอบโดยเร็ว ตรวจสอบแล้ว มีการอ้างถึงบุคคลที่เป็นตำรวจใน จ.ราชบุรี ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้ ได้ถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และตรวจสอบว่า กรณีที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นได้เกี่ยวข้องส่วนไหน ในลักษณะผู้ร่วมทำร้ายหรือไม่ หรือแค่ถือกล้องถ่ายภาพ แต่ถ้าเป็นกรณีในขณะเกิดเหตุอยู่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ก็ต้องถือว่าจะมีความผิดเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตรงนี้เราดำเนินการหมด (อ่านข่าวเกี่ยวข้อง) 

สำหรับอีกคลิปหนึ่งนั้นตนเองยังไม่ได้เห็นคลิปตรงนี้ได้แต่ข้อมูลในเบื้องต้น ทราบว่ามีบุคคลอื่นมีการไปกระทำความผิดร่วมกับผู้ต้องหาอีก ซึ่งเป็นคนละเหตุการณ์กัน ส่วนตรงนี้ได้เร่งตรวจสอบแล้วและพอรู้ตัวแล้วว่าเป็นบุคคลในพื้นที่ และส่วนนี้ต้องดูก่อนว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกันไหม แต่เท่าที่สอบถามทราบว่าเหตุเกิดขึ้นกันคนละครั้ง และต่างพื้นที่กัน สำหรับในทุกความผิดทาง สภ.เมืองยินดีที่จะรับคำร้องทุกข์ในเบื้องต้นให้ก่อน ถ้าปกติแล้วจะมีเขตอำนาจการสอบสวนในท้องที่ที่เกิดการกระทำความผิด ทางคลิปทั้ง 2 คลิปที่ระบุมาในภายหลัง มีการตรวจสอบแล้วยืนยันในเบื้องต้นว่าไม่ได้เกิดในท้องที่อ.เมืองราชบุรี แต่ทางตำรวจราชบุรียินดีที่จะรับคำร้องทุกข์ดำเนินการให้ก่อน เพราะไม่อยากให้ผู้เสียหายไปหลายท้องที่มีระยะเดินทางที่ไกลและเหนื่อย ต้องพร้อมที่จะสอบสวนเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นกระบวนการส่งสำนวนประสานงานไปยังท้องที่ที่เกิดเหตุก็จะดำเนินการให้เร็ว

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังที่เรือนจำ ปัจจุบันได้อยู่ในอำนาจของศาลจ.ราชบุรี ดังนั้นการประกันตัวหรือการปล่อยตัวต่างๆขึ้นอยู่กับศาล จ.ราชบุรี ปกติจะมีการประสานงานให้ทราบเรื่องด้วย