svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ประชาธิปัตย์ เปิด 27 นโยบายสวัสดิการเพียบพร้อมปราบทุนเทา

ประชาธิปัตย์ เปิด 27 นโยบายเลือกตั้ง-สวัสดิการมาเพียบ "หายจนรายได้ หายจนใจ หายจนปัญญา หายจนตรอก" พร้อมปราบทุนเทา - "อภิสิทธิ์" ชี้พูดแล้วทำไม่พอต้อง "คิดก่อนพูด" ด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช และนางการดี เลียวไพโรจน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวที ''พบกับ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์'' ทำอย่างไรไทยหายจน ''พลิกโฉมประเทศไทย: นโยบายสำหรับวันพรุ่งนี้'' โดยทีมคนทำเป็น ที่พรรคประชาธิปัตย์จัดขึ้น 

 

นายอภิสิทธิ์ โดยระบุว่า 15 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องทนกับสภาพปัญหาประเทศมาอย่างยาวนาน และจำเป็นต้องได้ผู้นำที่ทำเป็น และเข้าใจ ประเทศจึงจะสามารถหลุดพ้นปัญหา และเผชิญความท้าทายทำให้ไทยหายจนได้ พร้อมย้ำว่า ''บ้านเมืองสุจริต'' ที่ภาคประชาชนเรียกร้องหาความสุจริต เพราะความทุจริตทำให้ประเทศเสียงบประมาณ เสียโอกาสพัฒนาประเทศเพื่อดูแลประชาชน ซึ่งการทุจริต ทำลายเศรษฐกิจไทย และสังคมไทยมากกว่านั้นมาก ทำให้ประเทศไทยเสียต้นทุนทุกรูปแบบ ประชาชนเวลาติดต่อราชการ หรือพยายามทำมาหากิน จะต้องเผชิญกับกฎระเบียบที่ยุ่งวุ่นวาน และไม่สามารถไว้ใจใครได้ ประเทศที่เจริญแล้ว วัดจากระดับรายได้ และอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เห็นได้ชัดจนว่า ไม่มีประเทศไทย ที่จะเจริญได้ ถ้าบ้านเมืองไม่สุจริต จึงเป็นเป้าหมายแรกของไทยที่ต้องทำให้ไทยหายจน 

นายอภิสิทธิ์ ยังระบุอีกว่า ''เศรษฐกิจไทยจะต้องดี'' จากเดิมที่ไทยเคยเติบโตได้ร้อยละ 7 จากนั้น ประเทศไทยโตเพียงร้อยละ 3 หรือ 4 แต่ปัจจุบัน คือ ร้อยละ 2 ซึ่งการทำให้ได้มากกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะประเทศรอบ ๆ อาเซียน สามารถเติบโตได้ถึงร้อยละ 5 ดังนั้น เป้าหมายทำให้เศรษฐกิจดี จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก 

 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความเหลี่ยมล้ำที่ประเทศไทยติดลำดับต้น ๆ ของโลก จากปัญหาความไม่ยุติธรรม ทำให้เศรษฐกิจไทยโตยาก เป็นเงื่อนไขเกิดความขัดแย้ง หลายเรื่องประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ ซึ่งความยุติธรรมดังกล่าว ไม่ได้จำกัดเพียงด้านเศรษฐกิจ แต่รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายด้วย ถ้าประเทศไทย มีบทบาทนำในภูมิภาคได้ ประเทศไทย สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง คนไทยได้ประโยชน์ ดังนั้น จะต้องทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำในอาเซียนได้ ซึ่งปัญหาระหว่างประเทศ ไม่ได้จำกัดเฉพาะเขตแดน แต่ยังรวมถึงสแกมเมอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นข้ามพรมแดนทั้งสิ้น และที่ประเทศไทยถูกกดดันจากภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ประเทศ ขยับได้ยากมาก ดังนั้น ถ้าจะทำให้ไทยหายจน ต้องทำให้ประเทศไทยกลับไปยืนในภูมิภาคให้ได้ และประเทศไทย กำลังจะเป็นประธานอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้อาเซียน มีอำนาจในการต่อรอง ไม่ถูกมหาอำนาจบีบ 

นายอภิสิทธิ์ ยังย้ำว่า จากปัญหาดังกล่าว ''บ้านเมืองสุริต เศรษฐกิจดี มีความยุติธรรม เป็นผู้นำในภูมิภาค'' จึงจะเป็นคำตอบว่า ประเทศไทยจะหายจนได้อย่างไร พร้อมการันตีว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ภายใน 4 ปี เศรษฐกิจไทยจะต้องโตอย่างร้อยละ 5 อัตราการแข่งขันจะต้องดีเหมือนที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยทำ รวมถึงอัตราหนี้ครัวเรือน จะต้องลดลงเหมือนที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยทำได้ รวมบรรยากาศทางเศรษฐกิจ บรรยากาศทางธุรกิจ การแข่งขันของประเทศ สังคมและการศึกษา จะต้องดีเหมือนที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยทำได้ 

 

นายอภิสิทธิ์ ยังย้ำความพร้อมของ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ที่พร้อมไปร่วมเวทีดีเบตทั้ง 3 คน ซึ่งคนใดตอบคำถาม ก็ถือเป็นคำตอบเดียวกัน เพราะทำงานร่วมกัน เป็นทีมเดียวกัน และสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเจตจำนงในการผลักดันทุกเรื่องที่ผูกมัดพวกตนในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมยังสันทับถึงการพรรคการเมือง ที่ระบุพูดแล้วทำว่า พูดแล้วทำยังไม่พอ เพราะจะต้องคิดก่อนพูดด้วย และคิดแล้วต้องทำเป็น และยืนยันว่า 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทำเป็น 

 

ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า 15 ปีที่ผ่านมา โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก แต่ในมุมเศรษฐกิจไทย มีแต่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้ดีต่อประเทศ ประเทศไทยเมื่อ 15 ปีที่แล้ว จากวิกฤตซัมไพรม์ หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ สามารถฟื้น GDP ของประเทศได้ถึง 7.5 เปอร์เซ็นต์ สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ และคนไทย เพียงพอที่จะนำเสนอนโยบายใหม่ ๆ ให้ประชาชนในขณะนั้น เช่น เรียนฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจปรับลดลง และปีนี้คาดว่า เศรษฐกิจโตได้เพียง 2 เปอร์เซ็นต์ และในปีหน้า เชื่อว่า จะต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์แน่นอน และเมื่อ 15 ปีที่แล้ว อัตราหนี้ครัวเรือน อยู่เพียง 63 เปอร์เซ็นต์จาก เมื่อเปรียบ GDP ประเทศ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ติดท็อป 10 ประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว สามารถแบกอัตราหนี้ได้ แต่ประชาชนคนไทยยังยากจน ไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้ รวมถึงโครงสร้างหนี้ครัวเรือน ส่วนใหญ่เกิดจากการบริโภค เพราะรายได้ไม่เพียงพอ จากเศรษฐกิจไทยไม่เติบโต 

 

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (29 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ ยังได้เปิด 4 เสาหลัก สู่ 27 นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ''ไทยหายจน ด้วยคนทำเป็น'' ประกอบด้วย 

 

  • เสาที่ 1 หายจนรายได้

1. ประกันรายได้จ่ายทันที

สนับสนุนต้นทุนการผลิตตั้งแต่ต้นฤดูกาลไร่ละ 1,000 บาท ประกันรายได้ 10,000 บาท จ่ายทันทีต้นฤดูกาลไร่ละ 1,000 บาท

เก็บเกี่ยว จ่ายที่เหลือ

ข้าว (5ชนิด) ประกันรายได้ 10,000 บาทต่อตัน (ไม่เกิน 20 ตันต่อราย)

ข้าวหอมมะลิ ประกันรายได้ 15,000 บาทต่อตัน (ไม่เกิน 20 ตันต่อราย)

ยางพารา ประกันรายได้ 60 บาท/กิโลกรัม

มันสำปะหลัง ประกันรายได้ 2.50 บาท/กิโลกรัม (ไม่เกิน 100 ตันต่อราย)

ปาล์มน้ำมัน ประกันรายได้ 4 บาท/กิโลกรัม

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประกันรายได้ 8.50 บาท/กิโลกรัม

2. ประกันรายได้ แรงงาน

ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานด้วยกลไก "รัฐช่วยจ่ายส่วนต่าง" จัดทำดัชนีค่าครองชีพรายจังหวัด ถ้าค่าครองชีพสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำ รัฐจ่ายส่วนต่างทันที

แก้ปัญหาปากท้องที่ "แม่นยำ" หยุดเงินเฟ้อจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ลดแรงกดดันผู้ประกอบการไม่ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามนโยบายค่าแรงขั้นต่ำประชานิยมที่บังคับจริง ไม่ได้ เพราะค่าแรงขั้นต่ำเกิดจากการประชุม รัฐ นายจ้าง ลูกจ้าง นอกจากนี้ยังช่วยคุมต้นทุนของผู้ประกอบการรายย่อย แรงงานมีงานทำ ดึงแรงงานเข้าระบบ โดยไม่ทำลายขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ

3. ลดค่าไฟ ไม่ใช้เงินภาษี

   บริหารต้นทุนการผลิตไฟ ลดการใช้ “ก๊าซธรรมชาติเหลว”ที่มีต้นทุนแพง แทนที่ด้วยพลังงานที่ประหยัดกว่า

การรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากหลังคาบ้านประชาชน ด้วยระบบผลิตไฟใช้เองเหลือขายให้การไฟฟ้า

ไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากลาว

4. ประเทศไทยศูนย์กลางพลังงานแห่งอาเซียน

            เป็นศูนย์กลางระบบสายส่งไฟฟ้าอาเซียน ASEAN Power Grid ได้ค่าผ่านทางจากลาวไปมาเลเซีย สิงคโปร์ปีละ 5,000 ล้าน

ต่ออายุโรงไฟฟ้าที่หมดสัมปทาน เพื่อไม่ต้องจ่ายค่าความพร้อมใช้ เป็นกำลังสำรองราคาถูก

สร้าเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่ กำหนดแผนการที่สามารถทำได้จริง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ ขยายโอกาสให้ธุรกิจ สร้างงานที่ดี

5. พันธบัตรป่าไม้ ปลูกป่าได้เงินเดือน

เปลี่ยนเกษตรกรเป็นมนุษย์เงินเดือน ปลูกป่านำมาให้สถาบันการเงินออกพันธบัตรป่าไม้ ระดมทุนมาลงทุนในป่าไม้ยืนต้น เงินจากการขายพันธบัตรนำมาจ้างเกษตรกรเป็นรายเดือน

6. เงินได้ 40,000 บาทแรก ไม่เสียภาษี

ปัจจุบันผู้มีรายเดือนละ 26,583 บาทหรือเงินได้สุทธิปีละ 150,000 บาทไม่ต้องจ่ายภาษี(อัตรา 0%) ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงมานานมาก ขัดกับสภาพเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เพิ่มทุกปี ดังนั้นจึงเพิ่มจำนวนเงินได้สุทธิขั้นต่ำ(รายได้รวม หักค่าใช้จ่าย หักค่าลดหย่อน) ที่ไม่ต้องเสียภาษีเป็น 320,000 บาทต่อปี หรือคิดเป็นเงินเดือนเดือนละ 40,750 บาท

เพื่อให้ผู้ที่เริ่มทำงานใหม่ และประชาชนที่มีรายได้น้อย ได้ลดภาระค่าภาษี สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจากกำลังซื้อของผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาทหลายล้านคน

7. รถไฟฟ้า+รถเมล์ สูงสุด 30 บาท

คำนวนค่าโดยสารเป็นแบบเขตพื้นที่ Zoning โดยการเดินทางภายในเขตพื้นที่ราคาไม่เกิน 30 บาทต่อเที่ยว ผู้โดยสารที่เดินทางระยะไกล จะจ่ายค่าโดยสารลดลงให้มีระบบตั๋วร่วมของระบบรถไฟฟ้า และรถประจำทาง โครงการนี้รัฐจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายส่วนต่างให้ประชาชน

8. สลากออมทรัพย์รายจังหวัด “เฮงได้ แห้วคืน”

ให้มีการออกสลากการออมโดยออกเป็นรายจังหวัด จังหวัดละ 100,000 ใบ โดยกำหนดรางวัลที่หนึ่งจังหวัดละ 1,000.000 บาทต่องวด 77 ล้านบาทต่องวด โดยเงินที่ประชาชนใช้ซื้อสลากเมื่อหักค่าใช้จ่ายในการออกรางวัล สามารถนำมาสะสมในกองทุน

 

  • เสาที่ 2 หายจนใจ

9. โอบอุ้มคุณแม่ ดูแลลูกน้อย

ให้เงินอุดหนุนมารดาและเด็กเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยเป็นเงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้าทันทีตั้งแต่รับใบสูติบัตร ไม่ต้องพิสูจน์ฐานะ รัฐสนับสนุนเงินออมให้กับเด็กไทยทุกคนตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 18 ปี เดือนละ 500 บาท เพื่อให้เด็กทุกคนมีเงินออม โดยเงินออมนี้ถ้าเก็บในบัญชีเงินออมโดยไม่ถอนจะได้รับเงินเพิ่มพิเศษทุก 5 ปี ครั้งละ 10,000 บาท

10. เบี้ยคนชราถ้วนหน้า 1000

เพิ่มเบี้ยคนชราทุกคนตั้งแต่อายุ 60 ปี คนละ 1,000 บาทต่อเดือน

11. 50,000 บาท บ้านผู้สูงวัยปลอดภัย

ให้งบประมาณซ่อมและปรับปรุงบ้านให้เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 70 ปี บ้านละ 50,000 บาท เช่นการทำราวจับ การลดขั้นบันได การปรับปรุงห้องน้ำ เพื่อลดอุบัติเหตุ สะดวก ปลอดภัย ลดงบประมาณค่ารักษาพยาบาลระยะยาว

12. แปลงบ้านสูงวัย เป็นเงินใช้เลี้ยงชีพ อยู่ฟรีตลอดชีวิต

รัฐจ่ายเงินซื้อบ้านผู้สูงอายุด้วยการจ่ายล่วงหน้า ยังอยู่อาศัยได้จนเสียชีวิต ราคาบ้านที่ซื้อ คิดส่วนลดจากราคาประเมิน โดยรัฐจ่ายค่าบ้าน 4 งวด งวดละ 1 ปี ให้โอกาสทายาท ซื้อคืนด้วยราคาเดิม ไม่คิดค่าโอน

13. ทำฟันสูงวัย Fast Track

ผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ไม่ต้องรอคิวทำฟันนาน ให้มีการสำรองเวลานัดหมายทันตแพทย์สำหรับผู้สูงอายุ เพราะสุขภาพฟันทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น

14. เบี้ยคนพิการ ถ้วนหน้าx2

เพิ่มรายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้พิการจาก 800 บาทต่อเดือนเป็น 1,600 บาทต่อเดือน

ผู้พิการอายุน้อยกว่า 18 ปีได้รับจาก 1,000 บาทต่อเดือนเป็น 2,000 บาทต่อเดือน

 

  • เสาที่ 3 หายจนปัญญา

15. บุฟเฟต์การศึกษา เรียนสิ่งที่อยากเรียน

หลักสูตรการศึกษาหลักสูตรยืดหยุ่น มีอิสระ(Flexible Curriculum) ผู้เรียนสามารถออกแบบหลักสูตรได้ด้วยตนเอง เชื่อมโยงการศึกษานอกระบบเข้าสู่ในระบบ ด้วยระบบธนาคารหน่วยกิต (Credit Bank) และ Skill Wallet เยาวชน และประชาชนทั่วไปสามารถเรียนรู้และสะสมหน่วยกิตจากหลายช่องทาง (Credit Bank) สามารถเรียนข้ามหลักสูตรในสถานศึกษาต่างๆ เรียนรู้จาก Platform ที่เอกชนสร้างขึ้นเช่น Appสอนภาษา สอนเทคโนโลยี

จัดให้มีคูปองการศึกษา รัฐสนับสนุนคูปองการศึกษา ให้ประชาชนนำไปเลือกเรียนทักษะที่ต้องการในหลักสูตรระยะสั้นที่ผ่านการรับรองเพื่อเพิ่มรายได้ สนับสนุนรายละ 3,000 บาทต่อปี

16. เรียนฟรี ต้องฟรีจริง

แก้ปัญหา "ค่าใช้จ่ายแฝง" ที่เป็นภาระหนักของผู้ปกครอง โดยเฉพาะค่าเดินทางและค่าอาหาร ส่งเสริมให้ท้องถิ่น ชุมชนมีส่วนร่วมในการลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง

ให้งบประมาณที่เพียงพอ ไม่จ่ายรายหัว สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก และกลุ่มเด็กขาดโอกาส

ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดอาหารกลางวัน และการเดินทางของเด็ก

17. หางานให้ ใช้หนี้ กยศ

เปิดโอกาสให้ผู้กู้ยืม กยศ. สามารถทำงานบางประเภท และได้เงินอุดหนุนจากรัฐลดเงินที่กู้จากกองทุนฯได้ เช่น งานบริการสังคม งานที่ขาดคน งานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง

18. English for All /แพลตฟอร์ม Learn to Earn/NDLP

แก้เหลื่อมล้ำ มีครูเจ้าของภาษาให้เด็กไทยทุกคน

แพลตฟอร์ม Learn to Earn ที่ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน ในการกำหนดหลักสูตรที่ใช่และตอบโจทย์ภาคเอกชน สามารถจับคู่ทักษะของผู้จบหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของตลาด

National Digital Learning Platform แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งชาติ

 

  • เสาที่ 4 หายจนตรอก

19. ราชการในมือถือ

เทคโนโลโนยี One-ID ยืนยันตัวตนเพียงครั้งเดียว ลดความซ้ำซ้อนในการกรอกข้อมูล เข้าถึงบริการภาครัฐและเอกชนจากโทรศัพท์มือถือได้อย่างง่ายดาย 24 ชั่วโมง ทุกวัน ประหยัด ไม่เสียเวลา ไม่ต้องใช้สำเนากระดาษ

เทคโนโลยีกระเป๋าเงินดิจิทัลประชาชน Citizen Wallet จัดเก็บข้อมูลสำคัญที่เดิมต้องเก็บในรูปแบบเอกสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล รวมถึงจัดเก็บสิทธิประโยชน์ สวัสดิการที่รัฐมอบให้แก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ตรงวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพ

ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางภาครัฐ (GDX) (Government Data Exchange) ทำหน้าที่เชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานทุกหน่วยงานของรัฐ และแชร์ข้อมูลให้ประชาชนเจ้าของข้อมูล

20. Open Data ข้อมูลภาครัฐ

ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐเป็นแบบดิจิทัล Machine-Readable และเป็นข้อมูลสาธารณะเพื่อให้ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบได้

ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI.) ตรวจจับความผิดปรกติของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เช่น วิเคราะห์การกำหนดสเปค การเสนอราคาที่ผิดปรกติ การเสนอสินค้า หรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ตรงตามความต้องการ

ระบบติดตามงบประมาณตามพื้นที่ ให้ประชาชนสามารถกดติดตามโครงการของหน่วยงานรัฐในพื้นที่ของตัวเอง ให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะโครงการ เช่นการขยายสัญญา การส่งมอบงาน การจ่ายเงิน

ต้องจัดทำรายงานประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ เช่น ตารางสรุปมูลค่างานที่บริษัทได้สัญญาภาครัฐ โครงการที่ล่าช้าผิดปรกติ ฯลฯ โดยจะออกระเบียบให้ทุกหน่วยงานส่งข้อมูลงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจรับงานไปยังสำนักงานงบประมาณของรัฐสภา เพื่อเป็นผู้จัดทำรายงานดังกล่าว

ปราบสแกมเมอร์ 360 องศา

21. จัดซื้อจัดจ้างให้โอกาส SMEs ไทย Made-in-Thailand First

ปรับเกณฑ์การคัดเลือก แหล่งกำเนิด ก่อนราคาถูกที่สุด เพิ่มคะแนนผลประโยชน์การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

บังคับใช้สัดส่วนจัดซื้อจัดจ้างสินค้าไทย ให้สิทธิสินค้า MiT เสนอราคาสูงกว่าคู่แข่งต่างประเทศได้

ออกแบบสัญญาที่ลดความเสี่ยงให้กับ SME เช่น การแบ่งจ่ายงวดงานที่เร็วขึ้น หรือการลดวงเงินค้ำประกันสัญญาสำหรับสินค้าผลิตในไทย

รัฐร่วมทุนกับเอกชนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีสูง

22. ตัดตอนกฎหมายล้าสมัยด้วย Super Act

ร่างกฎหมาย “พระราชบัญญัติติการปรับปรุงและยกเลิกกฎหมายกฎหมายที่ไม่จำเป็น เป็นกฎหมายแม่บท เพื่อเริ่มต้นปฏิรูปกฎหมาย โดยไม่ต้องแก้ที่ละฉบับให้เสียเวลา สามารถออกแบบระบบกฎหมายตามวิสัยทัศน์ และฉากทัศน์ใหม่ของประเทศ

23. บทเรียนจากหาดใหญ่ ประเทศไทยพร้อมเผชิญภัยพิบัติ

พัฒนาระบบเตือนภัยใหม่ แจ้งครั้งเดียว ถึงหลายหน่วย (Single Disaster Center) ช่วยชีวิตได้จริง

ยกระดับกรมป้องกันภัยเป็นหน่วยงานระดับชาติ กำหนดแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น ต่อสัญญาณเตือนรูปแบบต่างๆ

ใช้เทคโนโลยีพยากรณ์การระบายน้ำ กำจัดสิ่งกีดขวาง เพิ่มประสิทธิภาพการระบาย สร้างระบบแก้มลิง หลุมขนมครก ดักทางน้ำหลาก

จัดให้มี “สถาบันนักวิทยาศาสตร์ด้านภัยพิบัติ” เพื่อกำหนดรูปแบบภัยพิบัติและแนวทางการเตือนภัย ที่สามารถสื่อสารถึงภัยที่กำลังเกิด ให้ประชาชนสามารถเข้าใจและรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในแต่ละคำเตือน ระบบนี้จะเชื่อมกับการแจ้งเตือนแบบท้องถิ่น (Local Alert – L-Alert Thailand) ที่สามารถเจาะจงการเตือนภัยได้ในระดับหมู่บ้าน

24. แก้ปัญหา PM 2.5 เร่งกฏหมาย 3 ฉบับ

ให้มีการเฝ้าระวังเข้มงวดพื้นที่เสี่ยงต่อการเผา พื้นที่ปล่อยควันพิษ

ใช้มาตรการจริงใจ และลงโทษ

เร่งกฏหมาย 3 ฉบับ 1) พรบ. อากาศสะอาด 2) พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3) พรบ.เศรษฐกิจหมุนเวียน

 

 

25. “บำบัด ปราบ ปกป้อง” ยาเสพติด

แยกผู้เสพออกจากผู้ขาย ตั้งแต่ขั้นตอนจับกุมและดำเนินคดี ขยายศูนย์บำบัดและฟื้นฟูให้เพียงพอ เข้าถึงง่าย ครอบคลุมทุกพื้นที่

เพิ่มเงินสินบนและรางวัลนำจับพิเศษสำหรับการจับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่

"ดัชนีพื้นที่เสี่ยง" ให้มีการจัดทำข้อมูลแสดงบนแผนที่ (Spatial data) ประเมินความรุนแรงของสถานการณ์ยาเสพติดตามรายพื้นที่อย่างละเอียด

จับมือกองทัพปราบปรามเส้นลำเลียง

26. ทหารอาสา 4 ปี เรียนฟรีอนุปริญญาขึ้นไป ปลดประจำการมีงานให้

รับสมัครทหารอาสา โดยสามารถรับราชการได้ 4 ปี มีสวัสดิการเหมือนข้าราชการทหารประจำการ

ทหารอาสาสามารถเพิ่มวุฒิการศึกษาระหว่างเป็นทหารอาสาได้ ให้กองทัพเพิ่มโอกาสให้กำลังพลส่วนนี้สามารถรับการศึกษาควบคู่ไปกับการรับราชการทหาร ตั้งแต่ระดับอนุปริญญาขึ้นไป

1 ครอบครัว 1 ทหารอาสา 1 อาชีพ หลังปลดประจำการ

เมื่อเป็นทหารอาสาครบกำหนดแล้ว สามารถสอบบรรจุเข้าเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐ ในหน่วยงานต่างๆ ได้ โดยกองทัพจะขอสัดส่วนตำแหน่งงานพิเศษสำหรับทหารอาสาที่ปลดประจำการ เช่น นายสิบทหาร นายสิบตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป้องกันภัย เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ

27. มอร์เตอร์เวย์สี่ทิศ รถไฟความเร็วสูง เชื่อมไทยเชื่อมโลก

ถนนมอร์เตอร์เวย์ สี่ทิศทั่วประเทศ

กรุงเทพ - เชียงราย กรุงเทพ - สะเดา กรุงเทพ - ตราด กรุงเทพ - กาญจนบุรี

กรุงเทพ - หนองคาย กรุงเทพ - อุบลราชธานี

ขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูง นครราชสีมา – หนองคาย เชื่อมต่อกับประเทศลาว และเส้นทางจากประเทศลาวสู่ประเทศจีน โดยจะมีสะพานรถไฟไทย–ลาวใหม่ และระบบรองรับการข้ามแดน ศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง

พรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ไทยหายจนด้วยทีมงานของคนทำเป็นที่เคยทำมาแล้วซึ่งเราเชื่อว่าประสบการณ์การบริหารเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าพูดแล้วทำเพราะต้องทำด้วยคนที่ทำเป็น

พรรคประชาธิปัตย์กำหนดเป้าหมายเป็นกรอบนโยบายประกอบด้วย 4 เสาหลักและ 27 นโยบาย เป็นแกนทิศทางการดำเนินงานของพรรคที่นำโดยหัวหน้าพรรคคุณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 ท่านคือ คุณกรณ์ จาติกวณิช และ ดร. การดี เลียวไพโรจน์ที่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกันมาและเป็นทีมเวิร์คที่ดี อาสามาเข้ามาเปลี่ยนแปลงให้คนไทยและประเทศไทย หลุดพ้นจากภาวะ ‘ทนหายใจ’ ไปสู่ ‘ไทยหายจน’ ด้วยทีมที่มีประสบการณ์การบริหารประเทศ มีความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และทำงานเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำ GDP ของประเทศเติบโตได้ 5% ภายใน 4 ปี