svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สตม.ลุยกวาดล้างอาชญากรรม เฝ้าระวังป่วน “เอเปค”

13 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สตม.ยังไม่มีรายงานพบบุคคลเฝ้าระวัง เตรียมรับมือประชุม “เอเปค” หลังประสานข้อมูลความมั่นคงแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศคู่ขัดแย้ง พร้อมสั่งลุยกวาดล้างอาชญากรรม มุ่งเป้ากลุ่มต่างด้าวกระทำผิด กม.

13 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในช่วงวันที่10 ต.ค.-12 พ.ย. โดยมีเป้าหมายหลัก เป็นคนต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

โดยสามารถจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้ทั้งสิ้น 785 ราย จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 1,249 ราย ดำเนินการประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พักอาศัยตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ในพื้นที่ กทม. จำนวน 2,723 แห่ง และมีผลการเปรียบเทียบปรับ

 

ส่วนกรณีเจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองเคหะสถานไม่แจ้งที่พักอาศัยกรณีรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตาม ม.38 จำนวน 587 ราย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย บก.ตม.2 มีการปฏิเสธคนต่างด้าวในการขอเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน 2,453 ราย

ทั้งนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว เปิดปฏิบัติการ Operation X-ray พื้นที่ หาคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ในวันพุธที่ 9 พ.ย. ที่โรงแรมแห่งหนึ่งเขตหลักสี่ และพื้นที่จุดเสี่ยงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

มีผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) จำนวน 7 ราย จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 1 ราย เปรียบเทียบปรับเจ้าบ้านหรือผู้ครอบครองเคหสถานไม่แจ้งที่พักอาศัยกรณีรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตาม ม.38 จำนวน 17 ราย

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ เปิดเผยว่า การกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงการประชุมเอเปค ถือเป็นเรื่องที่ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเน้นในเรื่องของการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และความผิดอื่น พร้อมทั้งขยายผลจับเครือข่ายผู้กระทำความผิด

 

สำหรับในช่วงนี้การเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินมากขึ้น ดังนั้นการตรวจสอบของ ตม.ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ อยู่บนพื้นฐานความมั่นคงและความปลอดภัย

ส่วนประเด็นอาจจะมีผู้ไม่หวังดี จะเดินทางเข้ามาก่อความไม่สงบการประชุมเอเปคหรือไม่นั้น ซึ่งเรื่องนี้ทาง สตม. ได้ทำงานมาโดยตลอด ก่อนการประชุม มีการประสานข้อมูลกับฝ่ายความมั่นคงของแต่ละประเทศถึงบุคคลที่เฝ้าระวัง ร่วมถึงประเทศคู่ขัดแย้ง มีการตรวจสอบย้อนหลังบุคคลที่เข้ามาอยู่ในประเทศ 6 เดือนถึง 1 ปี ทั้งสัญชาติ หรือชนชาติของผู้ที่เฝ้าระวัง ที่พักอาศัย ความถี่ในการเดินทางเข้า-ออก และเดินทางออกไปนอกประเทศหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายงานของบุคคลเหล่านี้

logoline