"ชัยชนะ"ชี้ย้ายพรรคเรื่องปกติ มองโอกาสดีเปิดรับเลือดใหม่สู้เลือกตั้ง

11 พฤศจิกายน 2565 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์    กล่าวถึงสถานการณ์ที่มีสมาชิกพรรคฯ ตัดสินใจลาออกจากพรรคฯ จนเกิดการเลือดไหลออกอีกว่า  ต้องยอมรับว่า เนื่องจากเป็นช่วงที่ใกล้ถึงการเลือกตั้ง และสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันที่อาจจะมีเหตุพลิกผันได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะมีความตั้งใจในการทำงานไปจนครบวาระ จึงทำให้นักการเมืองแต่ละคนก็ต้องรีบตัดสินใจทางการเมือง เพื่อที่จะได้เร่งรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งได้รับทราบ

สำหรับในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ในขณะนี้มีกระแสข่าวว่า จะมีสมาชิกไหลออกอีกจำนวนมากนั้น ในความรู้สึกของตนเองนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ใครลาออกแม้แต่คนเดียว เพราะแต่ละคนที่ออกไปก็เป็นคนที่มีศักยภาพสูง ทำงานให้กับพรรคฯ มานาน เป็นพี่เพื่อนน้องที่ร่วมลงสนามเลือกตั้งกับพรรคประชาธิปัตย์ในหลายๆครั้ง รวมทั้ง อยากให้อยู่กับพรรคฯ ไปนานแสนนาน เพราะเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ในอนาคตจะ มีการตั้งพรรคเพื่อหนุนคนอีกสักร้อยพรรคพันพรรค พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังคงอยู่ทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ตัดสินใจไปแล้ว ทางพรรคฯ ต้องยอมรับและเดินหน้าหาคนใหม่ๆ ที่มีใจและอุดมการณ์เดียวกันกับพรรคฯ ในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะถึงนี้ โดยมีคนที่มีความตั้งใจอยากจะมาทำงานกับพรรคฯ อีกจำนวนมาก ก็ทยอยเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค และมีศักยภาพพอที่จะส่งเสริมให้ประชาชนได้พิจารณาเลือกให้เป็นตัวแทนของประชาชนต่อไป

ดังนั้นตนถือว่าการที่มีบุคคลระดับแกนหลักและแม่เหล็กในพื้นที่ของพรรคฯ ลาออกมาเพื่อตั้งพรรคใหม่ หรือย้ายไปพรรคการเมืองอื่น ก็ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนในพรรคฯ จะต้องปรับกลยุทธ์กันใหม่ โดยเฉพาะตัวบุคคลที่จะต้องชนกับ ส.ส.คนเดิมที่ย้ายออกไป เพื่อที่จะให้ได้ตามเป้าหมายที่พรรคประชาธิปัตย์วางไว้ว่า จะต้องได้ ส.ส.มากกว่าคราวที่แล้ว คือเกิน 52 คนขึ้นไป 

 "ผมมีความรู้สึกเสียดายที่หลายๆคนออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยแต่ละคนก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป ซึ่งผมอยากจะบอกว่า หลายพรรคที่ย้ายไปเข้าไปอยู่ บางพรรคก็ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนๆ หนึ่งมีอำนาจ พอหมดอำนาจก็หมดจุดขาย บางพรรคก็รู้กันดีว่า ถูกครอบงำให้ต้องทำตามคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ยังบงการอยู่ต่างประเทศ  บางพรรคที่ย้ายไปก็อาจจะคิดว่าอยู่พรรคนี้แล้วตัวเองจะไม่เป็นฝ่ายค้านแน่ๆ เป็นต้น ดังนั้น ผมก็ขอให้โชคดีในสิ่งที่ได้เลือกในเส้นทางการเมืองข้างหน้า"

ทั้งนี้ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ต้องมีการส่งเสริมคนใหม่ๆ ให้ได้รับเลือกตั้งทดแทนคนเก่าที่ออกไป ดังนั้น ผมคิดว่า การที่ประชาชนและสื่อมวลชนกังวลว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์มีเลือดไหลออกตลอดเป็นระยะๆ โดยเฉพาะแกนนำสำคัญหรือ ส.ส.ที่การันตีคะแนนเสียงให้กับพรรคฯ ออกไปแล้ว พรรคจะไม่สามารถดำรงสถานะเป็นพรรคการเมืองหลักได้นั้น  อาจจะเป็นการมองในมุมมองที่ยึดตัวบุคคลที่เป็นผู้นำพรรคฯ จนลืมไปว่า พรรคการเมืองที่ดี จะต้องมีความต่อเนื่องในการทำงานให้กับประชาชน  เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการเปิดโอกาสให้มีการถ่ายเลือดใหม่ เพื่อเป็นการทดแทนเลือดเก่าที่ออกไป ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์คุ้นเคยอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มากเท่ากับที่เกิดขึ้น จนนำมาซึ่งความวิตกกังวลของประชาชนและสื่อมวลชนที่ตั้งข้อสังเกตในเวลานี้"