ส.ส.อยุธยา โวย ชาวบ้านน้ำท่วมเดือดร้อน แต่ช่วยไม่ได้ วอนกกต.คลายล็อก 180 วัน

27 ตุลาคม 2565 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ส.ส.จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในอยุธยา ในฐานะส.ส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บข้อมูลและ หาทางประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ นอกจากนี้ทำได้แค่ให้กำลังใจชาวบ้านเท่านั้น แม้ประชาชนเดือดร้อนกันมาก แต่ลงพื้นที่ไปแล้วช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ เพราต้องเคารพกฎหมาย เกรงว่าจะผิดพ.ร.บ.เลือกตั้ง ตามที่กกต.การประกาศ เพื่อน ส.ส.หลายคนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ทั่วประเทศ อยากจะช่วยเหลือประชาชนหลายอย่าง แต่ก็ไม่สามารถทำไม่ได้

"เราเป็น ส.ส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว ทำอะไรไม่ได้ ก็อึดอัดใจจริงๆ อยากวอนถึง กกต.ช่วยปลดล็อก 180 วัน ก่อนเลือกตั้งได้ไหม หากทำการปลดล็อกแล้ว เชื่อว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ ประชาชนเท่านั้น ที่จะได้เปรียบ ได้ประโยชน์ จากการช่วยเหลือ จากว่าที่ผู้สมัครทุกคน และส.ส.ที่ดำรงตำแน่ง รวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ จะได้ลงพื้นที่มาช่วยเหลือกัน ประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด หาก กกต.ปลดล็อกให้”

ส่วนการติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเริ่มลดระดับลงหลายพื้นที่ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ส่วนชาวบ้านชุมชน ที่อยู่ในทุ่ง ระดับน้ำขึ้นสูงและน้ำมีการระบายได้ช้าทำให้น้ำเริ่มเน่า เป็นแหล่งเพราะพันธ์ของยุง สัตว์มีพิษ รวมไปถึงการดำรงชีวิตประจำวันที่เดือดร้อน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับชุมชน หมู่ที่ 8 ต.ไม้ตรา อ.บางไทร ซึ่งเป็นชุมชนที่รับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำจากทุ่งเจ้าเจ็ด ที่มีน้ำอยู่เต็มทุ่งนา บ้านเรือนชาวบ้าน ขณะนี้น้ำเริ่มเน่า หลังจากท่วมมานานกว่า 1 เดือน โดยถนนในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องลุยน้ำที่เป็นทุ่งนา มีทั้งปลิง และช่วงกลางคืน จะมียุงชุกชุม อย่างไรก็ตามจากระดับน้ำที่เข้าท่วมอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน ต้องปล่อยตู้เตียง เครื่องใช้ เครื่องมืออุปกรณ์ ประกอบอาชีพ ได้รับความเสียหาย

นายบุญนาค ศรีสวัสดิ์ อายุ 71 ปี บอกว่า ตนอาศัยอยู่กับภรรยา ในบ้านชั้นเดียว และมีท่วมน้ำสูงกว่า 40 ซม. ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะการใช้ห้องน้ำ ในการถ่ายทุกข์ ต้องใช้เก้าอี้พลาสติก และขึ้นไปนั่งยองๆ แล้วถ่ายทุกข์ลงไว้ในถังพลาสติก

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้เรียกร้อง ให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ ปากคลองหมู่ 8 เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกเป็น 65 ซม. พร้อมกับเร่งสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำ และสูบน้ำสิงหนาท วัดท่าซุง เพิ่มอีก  โดยให้ชลประทาน ช่วยระบายน้ำเข้าไปในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา พระยาบรรลือ ก็จะช่ายอำเภอบางไทร ได้บรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง

ขณะที่วันนี้ (27 ต.ค.) เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้เริ่มลดการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน อย่างต่อเนื่อง เหลือการระบายอยู่ที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้หลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเริ่มลดลง บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว ส่วนในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ยังมีน้ำท่วมสูง และการระบายน้ำ ออกจากพื้นที่เป็นไปได้อย่างล่าช้า ทำให้ชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนอยู่