“กัญจนา” ส่งไม้ต่อให้หัวหน้าพรรคใหม่ ตามแนวทาง“บรรหาร” ปักธงทั่วประเทศ

3 ตุลาคม 2565 ที่โรงแรม มิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ พรรคชาติไทยพัฒนา จัดการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2565 โดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีตอนหนึ่ง ว่า วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา จัดประชุมใหญ่สามัญ เพื่อให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะตนได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 จึงมีผลให้กรรมการบริหารทั้งชุดพ้นจากตำแหน่ง

" เคยพูดในการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1 เมื่อครั้งที่วันที่ 24 เมษายน 2565 ว่าจะมีการปรับเปลี่ยน และอีกไม่นานพรรคของเราจะมีการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในตำแหน่งสำคัญของพรรค ซึ่งวันนี้มาถึงแล้ว "

พรรคชาติไทยพัฒนา เราเน้นการทำงานของคนรุ่นใหญ่ และคนรุ่นใหม่ แต่อยู่ที่ว่าช่วงเวลาไหนจะเหมาะกับการทำงานของคนรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ตนได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน และได้พาพรรคเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อเดือน มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่มีที่ไม่มี พ่อบรรหาร ศิลปอาชา ซึ่งหลายคนมองว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในพรรค ผู้ใหญ่ในพรรค ทำให้เราผ่านการเลือกตั้งครั้งนั้นมาได้ด้วยดี อาจจะพลาในเรื่องจำนวนส.ส.ไปบ้าง แต่เราสามารถนำพาพรรคมาอยู่ในจุดที่สมาชิกพรรค และ ส.ส. ของพรรคสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

เรามีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล 2 ท่านคือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 2 คนของพรรคทำงานอย่างขยันขันแข็ง เป็นที่ภาคภูมิใจของพรรค สามารถดูแลทุกข์สุขของประชาชนในทุกพื้นที่ ที่มีความเดือดร้อนของประชาชน ถ้ามาถึงการรับรู้ของรัฐมนตรีทั้ง 2 คนของพรรค ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดไม่ว่าจะรับรู้โดยตรงด้วยตัวเอง หรือผ่านส.ส. หากเป็นการที่อยู่ในความรับผิดชอบ และทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย รัฐมนตรี 2 คนของเรายินดีทำให้ทุกเรื่อง ซึ่งเป็นการทำงานแบบพรรคชาติไทยพัฒนา  

ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ในฐานะหัวหน้าพรรค แม้ตนจะไม่เป็นข่าวมากนัก แต่ตอนอยู่ในจุดที่ทำงานได้อย่างเหมาะสม และมีความพอใจ ตนมีความสุขทุกครั้งในการประชุมพรรคทุกวันอังคาร ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ที่เพื่อนส.ส. นำมาพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ แน่นอนเราไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง ซึ่งเป็นระบบของประชาธิปไตยแต่ในเรื่องใดที่จำเป็นต้องเป็นมีมติพรรคออกไป ส.ส. ของพรรคไม่มีปัญหา ซึ่งเป็นบรรยากาศอบอุ่นในการทำงานซึ่งตนสัมผัสได้ตลอดมา 

ที่ผ่านมาตนขอขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรค กรรมการบริหารบริการพรรค ทั้ง ส.ส. ที่อยู่เดิม และมาใหม่ ทำให้ตนทำงานได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ ทั้งนี้เราต้องเชื่อมั่นว่าผู้นำพรรคคนใหม่จะใช้ความรู้ความสามารถนำพาพรรคชาติไทยพัฒนาให้เติบใหญ่ แข็งแรง กำลังผนึกกำลังทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ ทั้งคนที่อยู่เดิมและผู้ที่อยากจะมาใหม่ เพื่อเป็นพรรคชาติไทยพัฒนาที่แข็งแรง สามารถทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้ในหลากหลายวิธี หลุดพ้นจากการที่มองว่าเป็นพรรคท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งเท่านั้น 

" หวังเป็นอย่างยิ่ง พรรคคนใหม่จะสามารถปักธง พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ทั่วทุกภาคเช่นพ่อ นายบรรหาร สามารถทำมาแล้ว แต่ต้องคงเอกลักษณ์พรรคชาติไทยพัฒนา คือ มีสัจจะต่อคำพูดที่ได้พูดไว้ กตัญญูต่อแผ่นดิน และมีความอบอุ่นในบรรยากาศการทำงานของพรรค การเป็นนักการเมืองที่ดีนั้นไม่สามารถส่งต่อให้กันทางสายเลือดได้ ทุกคนต้องทำเอง สร้างผลงานเอง พิสูจน์ตัวเอง เหมือนเช่นที่พ่อบรรหารได้ทำมาตลอด 50 ปีของอายุการทำงาน ทำจนจบจนลมหายใจสุดท้ายพ่อจากไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2559 " 

น.ส.กาญจนา กล่าวอีกว่า ได้เห็นวาระที่พ่อทำงานไว้ ด้วยการทำงานอย่างนี้ ประกอบกับพ่อรู้เท่าทันคนสถานการณ์ ขยัน ไม่หยุดเรียนรู้ จึงเป็นที่ยอมรับจึงได้รับการตั้งฉายาว่า “มังกรการเมือง” อย่างไรก็ตามการเป็นนักการเมืองส่งต่อทางสายเลือดไม่ได้ แต่สายเลือดมังกรยังไงก็ต้องเป็นมังกร อยู่ที่ว่าจะฉายแวว ได้แจ่มชัด เป็นที่ประจักษ์ได้เมื่อไหร่เท่านั้น ทั้งนี้ตนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานพรให้ผู้นำพรรคคนใหม่ให้นำพาพรรคเจริญเติบโตใหญ่แข็งแรงนำความเจริญมาสู่บ้านเมืองต่อไป

   รีแบรนด์โลโก้  “แสงแห่งชัยชนะ”  

นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา ขึ้นเวทีชี้แจงถึงการเปลี่ยนแปลงโลโก้พรรคชาติไทยพัฒนา ต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2565 เพื่อขอมติในที่ประชุมให้ความเห็นชอบ

นายวราวุธ อธิบายว่า แรงบันดาลใจในการออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่ มาจากแนวความคิดเพื่อความก้าวหน้าของประเทศไทย การร่วมแรงร่วมใจลงมือทำในเป้าหมายเดียวกัน เพื่อความปรองดองสามัคคี มุ่งไปสู่ความหวังและความสำเร็จ โดยยังคงแผนที่ประเทศไทย คุณค่าหลักตั้งแต่พรรคชาติไทย มาถึงพรรคชาติไทยพัฒนา ของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ที่มุ่งมั่นทำงาน พูดจริง ทำจริง และเป็นผู้จุดประกายการปฏิรูปการเมือง จนเกิดรัฐธรรมนูญปี 2540 หรือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ไว้เป็นมรดกให้การเมืองไทย 

โดยมีการปรับปรุงแผนที่ประเทศไทยเป็นสีชมพูที่เป็นสีของพรรค และเพิ่มมิติให้เด่นขึ้น สื่อถึงการยกระดับพัฒนาประเทศให้โดดเด่นก้าวไปข้างหน้า องค์ประกอบเส้นวงกลมสีน้ำเงิน หมายถึงความศรัทธา ความปรองดอง สามัคคี เป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติ และเส้นวงกลมสีเหลือง หมายถึงแสงแห่งชัยชนะ สะท้อนถึงความสำเร็จของการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชาติ เมื่อนำมารวมกัน

ภายหลังนายวราวุธ นำเสนอที่มาการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์ หรือ โลโก้พรรคแล้ว ที่ประชุมมีมติรับรอง ให้ความเห็นชอบในการใช้ตราสัญลักษณ์ใหม่