ยังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์ปัญหาน้ำรอการระบายในพื้นที่ กทม. ในหลายพื้นที่ทั่วกรุง หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนตามมาด้วยเสียงของฝ่ายต่าง ๆ โดยเฉพาะฝ่ายตรงข้ามและผู้ที่ไม่ได้สนับสนุน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ที่มีการระบุว่า ปัญหาน้ำท่วม กทม. ครั้งนี้เป็นการวางงานผู้ว่าฯ ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี หลังเข้ามารับตำแหน่งได้ 3 เดือน (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย.) นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยว่า พบความผิดปกติในงบประมาณกรุงเทพมหานคร ปี 2566 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 จำนวน 79,719 ล้านบาท โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ่อนไหวน้ำท่วม พบว่า เขตจตุจักร ซึ่งมีจุดเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วม 11 จุด มีโครงการโยธาทางระบายน้ำ ถูกตัดงบประมาณทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นโครงการพาคนไปเที่ยวสัมมนาสูงถึง 9,783,300 บาท
“ผมมีเอกสารการแปรญัตติงบประมาณ โยกงบโครงการที่ผิดเพี้ยน จากร่างข้อบัญญัติงบประมาณเดิม ที่ฝ่ายบริหารเสนอมาถึง 4.8 พันล้านบาท ผมไม่อยากเชื่อว่า ขณะที่กรุงเทพฯ จมน้ำ แต่การอนุมัติงบประมาณโดยสภา กทม. กลับโยกงบมาพาคนไปเที่ยว พาหัวคะแนนไปสัมมนา เฉพาะในเขตจตุจักร มีการแปรญัตติเปลี่ยนแปลงงบประมาณ สูงถึง 16,232,300 บาท ขณะที่ย้ายหมวดเพิ่ม เพื่อเหมาทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ค่าฝาท่อระบายน้ำ มีเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น”
นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า ข้อบัญญัติงบประมาณ กทม. ปี 2566 ที่ผ่านสภา กทม. มีข้อแปลกประหลาดขัดกฎหมายปัจจุบัน กรณีการตัดโครงการที่เสนอไปแล้ว และแปรญัตติเพิ่มงบประมาณในหมวดรายการที่ไม่มีการเสนอมาก่อน เช่น รายการที่เพิ่มเข้าไปในงบของเขตจตุจักร คือโครงการพาคนไปสัมมนาเที่ยวดูงานสูงเกือบ 10 ล้านบาท
ในขณะที่กรุงเทพฯ มีวิกฤตน้ำท่วม จึงมองว่าถ้า กทม. เอาไปทำท่อ ลอกท่อ สูบน้ำ จะไม่ว่าเลย ทั้งนี้ กทม.ในภาพรวมยังมีความผิดปกติลักษณะเดียวกันอีกเป็นพันล้านบาท ซึ่งตนจะรีบส่งเอกสารให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ ก่อนมีการประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างจริงในเดือนพฤศจิกายนนี้
“ข้าราชการ กทม. หลายคน ไม่อยากเซ็นอนุมัติสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผมขอให้ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระงับการจัดซื้อจัดจ้างในกรณีแบบนี้ด้วย ผมว่าเอาเงินไปช่วยน้ำท่วมดีกว่า”