คณะหลอมรวมประชาชน นัดไล่นายกฯประยุทธ์ เย็นนี้ 4 โมงเย็น ม็อบโผล่สมทบอีกพรึบ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ในนาม "คณะหลอมรวมประชาชน" เฟซบุ๊กไลฟ์ Exclusive Talk ก่อนวันสำแดงพลัง ณ "ลานคนเมือง" โดยกล่าวถึงปัญหามากมายภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ซุกไว้มาเกือบ "วาระ 8 ปี" จนทำให้ไทยหายนะแทบทุกด้าน

 

นายนิติธร กล่าวว่า การตีความระยะเวลานายกรัฐมนตรีตาม รธน. 2560 สมควรต้องให้เข้ากับเจตนารมณ์ของ รธน. ไม่ใช่ตีความให้เป็นไปเจตนารมณ์ของศาล อย่างไรก็ตาม ถ้าจะช่วยกันแล้ว ประชาชนจะเชื่อใจได้หรือไม่

 

"เมื่อจะทำกันแบบมึนๆ กันแล้ว ก็ควรตีความระยะเวลานายกฯ 8 ปี นับแต่โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เมื่อปี 2562 เลย มันจะได้เป็นวิกฤตของประเทศที่เกิดจากการผูกขาดอำนาจอย่างแท้จริง"

 

 

นอกจากนี้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ มา 8 ปี การบริหารประเทศภายใต้อำนาจของเขาทำให้ชีวิตผู้คนตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านพลังงานซึ่งรัฐวิสาหกิจของรัฐมีกิจการยังย่ำแย่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟฝ.) อยู่ในสภาพขาดทุนและแทบทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นผู้ลงทุนซื้อไฟฟ้าตามสัญญากับโรงไฟฟ้าเอกชน แต่ไม่นำมาให้ประชาชนใช้ ดังนั้นการลงทุนด้านพลังงานของเอกชนจึงร่ำรวยกระจุกตัวเฉพาะกลุ่มทุนใหญ่ แล้วคนไทยตัวเล็กตัวน้อยก็จ่ายค่าไฟฟ้าแพง เพื่อ กฟฝ.จะได้นำเงินไปจ่ายหนี้กว่าแสนล้านบาทให้เอกชน

 

อีกทั้งเป็นที่สังเกตว่า ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดเกือบ 8 ปียังไม่เห็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จับการทุจริตของรัฐมนตรีชุดปัจจุบันได้สักคนเลย ที่เป็นคดีความนั้นล้วนเกิดจากคดีเก่าทั้งสิ้น สิ่งนี้จึงมีความน่ากังขาถึงความพิกลพิการของ ปปช. หรือไม่ จนทำให้เกิดช่องว่างในการทุจริตของหน่วยงานรัฐ กรณีจีที 200 ก็ไม่สามารถเอาความผิดกับคนตัวใหญ่ๆได้เลย มีแต่คนตัวเล็กตัวน้อยต้องรับกรรม

 

“รัฐบาลบ้าที่ไหนที่มาออกข่าวดีใจในโครงการแจกคนละครึ่งที่มีประชาชนมาใช้สิทธิ์เป็นล้านๆคน แล้วยังยิ้มระรื่นกับโครงการบัตรคนจนที่เพิ่มมากขึ้นนับสิบล้านคน ทั้งที่สิ่งเหล่านี้คือ การสะท้อนถึงความหายนะของประเทศ แสดงว่าประชาชนอ่อนแรงยากจนมหาศาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งประกาศเป็นครัวโลก แต่กลับมีคนไม่มีอาหารกิน ต้องรอรับการแจกอยู่ริมถนนราชดำเนิน แล้วทั้งแผ่นดินจะมีมากขนาดไหน”

 

ไม่เพียงเท่านั้น นายนิติธร ย้ำถึงความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจ โดยสหรัฐพยายามใช้ไทยเป็นฐานทางการทหารในพื้นที่อาเซียน การเซ็นสัญญาอินโด-แปซิฟิกเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็น พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกันที่นำไทยไปเป็นพันธมิตสหรัฐเพื่อปกป้องไต้หวั่น และที่สำคัญต้องเกิดความขัดแย้งกับจีน

ดังนั้น ไทยจึงเป็นประเทศสุ่มเสี่ยง ล่อแหลมถ้าเกิดสงครามขึ้นในภูมิภาคนี้ เพราะนั่นเกิดจากผู้นำปอดแหก ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไร้ความคิดให้ไทยมีศักดิ์ศรีเป็นกลาง จึงดูเหมือนนำไทยไปเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐ โดยไม่ฉวยโอกาสเป็นเหตุผลนำไทยออกจากสัญญาอินโด-แปซิฟิก

 

อีกอย่างกรณีนายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยคนใหม่ ประกาศกดขี่ บังคับ ข่มเหงประเทศไทยอยู่ต่างประเทศ ราวกับไทยเป็นเมืองขึ้น ส่วนนายกฯ และรมต.ต่างประเทศไทยเงียบ ไม่มีเสียงตำหนิ หรือให้สติคัดค้านเลย แล้วจะปล่อยให้มาเหยียบย่ำแบบนี้ โดยฝ่ายไทยไม่จัดการ ไม่ยืนยันถึงการเป็นรัฐที่มีอิสรภาพ มีการปกครองของประเทศเป็นอิสระ ซึ่งสมควรต้องเคารพเจ้าของบ้านด้วย

 

“ไม่ได้เกลียดชังอะไร พล.อ.ประยุทธ์ เลย เมื่อกฎหมายปิดทางให้ไปก็จงไป คนใหม่จะได้มาแก้ไขที่ทำทิ้งเอาไว้มากมายทั้ง โครงการ อีอีซี กำหนดเงื่อนไขลงทุนให้เฉพาะคนต่างชาติ ส่วนนักธุรกิจไทยกลับไปลงทุนต่างประเทศ จึงเป็นความผิดเพี้ยนของการบริหารประเทศ อีกอย่างการแก้ไฟฟ้าแพงเอื้อประโยชน์ให้ทุนเอกชนร่ำรวย แล้วคนไทยจ่ายค่าไฟฟ้าแพง สิ่งเหล่านี้ถูกซุกไว้ใต้พรหมจะได้ออกมาสะสางกัน”

 

นายนิติธร กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอดเกือบ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรไว้มากมายที่ทำให้ประชาชน ประเทศชาติแย่ จึงชวนประชาชนไปร่วมแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งหมาย ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในที่สุด วันที่ 21-24 ส.ค.นี้ พลังประชาชนที่ลานคนเมือง เสาชิงชัง กทม.จะล้นหลามประกาศศักดา

 

นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยมั่งคั่ง มีทรัพยากรมากมาย แต่ขาดบุคคลมานำบริหารประเทศ จึงสนองหลักคิดให้ประชาชนยากจน เพื่อไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับอำนาจการบริหารประเทศ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ใจถึงมากที่กล้าตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่หาลูกทีมมาบริหารไม่ได้เลย จนทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยพังยับเยิน พินาศทั้งประเทศ

 

ดังนั้น 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหาร จึงเป็นความสูญเปล่าของประเทศ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นชิ้นเป็นอันเลย ได้แต่พูด เอาแต่สั่ง ส่วนการทำงานกลับไม่เป็นโล้เป็นพาย ทั้งที่ได้รัยโอกาสถึง 8 ปี ควรจะทำอะไรให้ได้มากกว่านี้ เพราะเป็นนายกฯ ที่เอาแต่คิดฝัน สั่งการคงไม่พอ จึงไม่สมควรจะเป็นนายกฯ ต่อไปอีก

 

คณะหลอมรวมฯ เชื่อว่า ตามกฎหมายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากนายกฯ ชัดเจน พวกเราย้ำเสมอว่า ไม่ได้กดดันศาล รธน. ขออย่ามากล่าวหากัน ดังนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากนายกฯ กันจริงก็จะได้รับการสรรเสริญ เยินยอจากประชาชนอย่างมาก ส่วนคณะหลอมรวมฯ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่เป็นนายกฯ ต่อ เพื่อจะได้กระชากหน้าการบริหารประเทศ แล้วประเทศนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างจริงจัง

 

“เราย้ำอย่างมั่นใจว่า ประเทศจะเปลี่ยนไม่ได้เลย ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยอมออกไปดีๆ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องอยู่ต่อไป ปัญหาที่เต็มบ้านเต็มเมืองจะถูกชำแหละมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงประเทศ เป็นเรื่องของผู้ปกครองเสพติดอำนาจ ไม่ใช่ความขัดแย้งของประชาชน จึงให้แสดงพลังกัน"

 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายกลุ่ม ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดยมีการนัดหมายชุมนุมหลายหลายจุดด้วยกัน เช่น

 

คณะหลอมรวมประชาชน” นัดชุมนุมใหญ่ “นับถอยหลัง 8 ปี ประยุทธ์” วันที่ 21-24 ส.ค. 2565 ที่ลานคนเมือง

 

 

 

ด้านเพจ “ก็มาดิแก๊ส” ได้โพสข้อความประกาศนัดชุมนุม  23 สิงหาคม 65 ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ ต้านการสืบทอดรัฐบาลประยุทธ์   พบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น เป็นต้นไป ใครจะทนก็ทนไปกูไม่ทนแล้ว 8 ปี ไม่มีความเจริญ แล้วพบกัน 

 

 

ด้านเพจ “ราษฎรไล่ตู่ กลุ่มแดงปฎิวัติ” ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ประกาศนัดชุมนุม ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ยกระดับบุกทำเนียบรัฐบาล จุดหมายคือปักหลักตั้งค่ายไล่เผด็จการประยุทธ์ พอแล้ว 8 ปีที่ผ่านมา 

24นี้ ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ออกมาช่วยกันพี่น้องราษฎรไทยทุกคนทุกจังหวัด ให้มันรู้ว่า "กูไม่ให้มึงไปต่อ" ประเทศไทยต้องไม่มีนายกชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกต่อไป