
23 ธันวาคม 2568 ฟิลิปปินส์ ได้ให้คำมั่นว่า จะผลักดันสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อไป แม้ว่าการสู้รบระหว่างสองประเทศ จะยังคงดำเนินอยู่ โดยระบุว่าพร้อมจะทำหน้าที่ผู้ประสานงาน หรือผู้ไกล่เกลี่ย ในความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเข้ารับตำแหน่งประธานหมุนเวียนของอาเซียน ในเดือนมกราคม ปี 2569 ต่อจากมาเลเซีย ซึ่งได้ช่วยไกล่เกลี่ยให้มีการลงนามในคำแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยและ กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นสักขีพยาน เมื่อเดือนตุลาคม แต่ข้อตกลงนี้ได้ถูกละเมิดไปแล้ว
แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ระบุว่า "หลังจากการหารือในวันนี้ ฟิลิปปินส์พร้อมที่จะรับบทบาทเป็นผู้ประสานงาน ผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างกัมพูชาและไทย หากทั้งสองฝ่ายตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์ จากบทบาทของประธานอาเซียน เมื่อฟิลิปปินส์เข้ารับตำแหน่งประธานอาเซียน ในเดือนมกราคม 2569"
ท่าทีกระตือรือร้นของฟิลิปปินส์ มีขึ้นหลังจาก "มาเรีย เทเรซา พี. ลาซาโร" รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวาระพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระหว่างกัมพูชาและไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ไทยและกัมพูชา กำลังเตรียมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee) หรือ GBC ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการและการตรวจสอบข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยุติการปะทะกันที่เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวาระพิเศษ ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงสำหรับทั้งสองประเทศ ซึ่งสู้รบกันมานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว