กัมพูชาการละคร! “ฮุน เซน” ปล่อยคลิปร่ายยาวตัดพ้อถูกรังแก

22 ธันวาคม 2568 ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดของกัมพูชา โพสต์คลิปวิดีโอ มี 3 ความอยุติธรรม ที่กัมพูชากำลังเผชิญจากความขัดแย้ง ระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมเรียกร้องให้ชาติ รัฐ และสถาบันต่างๆ ต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อความเข้มแข็งของกัมพูชา
 

ในคลิปวิดีโอความยาว 3.07 นาที พร้อมข้อความบรรยายเป็นภาษาอังกฤษว่า "กัมพูชาไม่ได้แค่ถูกโจมตีบนดินแดนของเราเอง" เกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศ กำลังถูกทำร้ายด้วยการกระทำอันโหดร้ายของกองทัพไทยและรัฐบาลไทย เราถูกรุกราน แต่พวกเขากลับอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเองจากการคุกคามของเรา เราถูกรุกราน แต่กลับมีการสร้างเรื่องราวใหม่ขึ้นมาว่า นี่คือการรณรงค์ปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ เราถูกรุกราน และเราถูกกดดันให้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว นี่คือความอยุติธรรมสามชั้น แรงกดดันที่ทับถม การบีบบังคับที่ทับถม ประเทศเล็กๆ ถูกบีบให้ยอมรับการหลอกลวง เพื่อเอาใจมหาอำนาจที่ใหญ่กว่า 
 

นี่คือความเป็นจริงอันโหดร้ายของการเมืองระหว่างประเทศ ความยุติธรรมไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติสำหรับคนอ่อนแอ การพูดความจริงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หลักฐานเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การทนทุกข์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถมองเห็นได้ อำนาจต่างหากที่ตัดสินว่าใครถูกใครผิด อำนาจต่างหากที่ตัดสินว่าเรื่องราวของใครควรได้รับการยอมรับว่าเป็นความจริง อำนาจต่างหากที่ตัดสินว่าความเจ็บปวด และความตายของใครควรค่าแก่การคำนึงถึง 
 

เมื่อกัมพูชาแสดงความยับยั้งชั่งใจ ก็จะถูกมองว่าอ่อนแอ เมื่อกัมพูชาเรียกร้องความยุติธรรม ก็จะถูกบอกให้อดกลั้น นี่ไม่ใช่การกดดันให้กัมพูชายอมรับความอยุติธรรมอย่างเงียบๆ หรอกหรือ? นั่นคือเหตุผลที่สงครามรุกรานสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง แต่เราต้องไม่ทำให้มันแตกแยก ความเจ็บปวดที่ไร้ทิศทางนำไปสู่ความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดที่ถูกชี้นำด้วยจุดประสงค์และการไตร่ตรอง สามารถเปลี่ยนเป็นพลังของชาติได้
 

หนทางข้างหน้าสำหรับกัมพูชา คือการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศในทุกมิติ เราต้องลงทุนในศักยภาพของตนเองให้มากขึ้น พัฒนาเครื่องมือทางการทูตของเราให้คมยิ่งขึ้น เพื่อเปิดโปงเรื่องเล่าเท็จ สร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง เสริมสร้างความยุติธรรมทางสังคมและต่อต้านการทุจริต เราต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นพลัง โดยการเพิ่มผลผลิตภายในประเทศและเสริมสร้างทักษะแรงงาน
 

เราต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นพลัง โดยการเพิ่มผลผลิตภายในประเทศ เสริมสร้างทักษะแรงงาน พัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและการทหาร และสร้างคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ สิ่งสำคัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่ง คือ เราต้องเสริมสร้างความสามัคคีของชาติ สังคมที่แตกแยกนั้นง่ายต่อการถูกรังแก ประเทศที่ขาดความไว้วางใจในตนเองนั้น ง่ายต่อการถูกครอบงำ รัฐ ประชาชน สถาบัน และสื่อ อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาต้องไม่ขัดแย้งกัน พวกเขาต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว หากความยุติธรรมไม่มีความเมตตาต่อผู้ที่อ่อนแออย่างแท้จริง เราต้องรวมใจกันเพื่อให้แน่ใจว่า กัมพูชาจะไม่ยอมอยู่ในสภาพอ่อนแอ