
13 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวเมื่อวันศุกร์ (12 ธันวาคม) ว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายรุกรานในความขัดแย้งกับกัมพูชา และกำลังปกป้องอธิปไตยและประชาชนของตน และทรัมป์ได้บอกเขาว่า ต้องการสันติภาพ และต้องการให้ประเทศไทย ยุติปฏิบัติการและกลับไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงก่อนหน้านี้
นายอนุทินกล่าวว่า
"เขาก็อยากให้หยุดยิง ผมก็ต้องบอก ผมบอกท่านไปว่า เรียนท่านไปว่า บอกให้ไปบอกเพื่อนเราดีกว่าว่า อย่าบอกว่าหยุดยิงเฉยๆ ต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่า เอาละ กัมพูชาจะหยุดยิง กัมพูชาจะถอนกำลังออกไป กัมพูชาจะเก็บกู้วัตถุระเบิดที่วางเอาไว้ นะครับ ออกไปให้หมด แล้วทำให้เห็น"
"ฝ่ายกัมพูชา เป็นฝ่ายที่ละเมิดสัญญา เพราะฉะนั้น คนที่ละเมิดสัญญาต้องแก้ไขครับ ไม่ใช่คนที่ถูกกระทำมาแก้ไข มันหลักสากล หลักที่ทุกคนต้องเข้าใจ"
ประเทศไทยและกัมพูชาได้ยิงจรวด และปืนใหญ่ตอบโต้กันในหลายจุด ตามแนวชายแดนพิพาท ระยะทาง 817 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการปะทะกันที่รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่การสู้รบห้าวันในเดือน กรกฎาคม ซึ่งทรัมป์ได้โทรศัพท์หาผู้นำทั้งสอง เพื่อยุติความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อเร็วๆ นี้
ทรัมป์กระตือรือร้นที่จะเข้าแทรกแซงอีกครั้ง เพื่อรักษาสันติภาพที่เขาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย เขาได้พบกับนายอนุทิน และนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ที่มาเลเซียเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน "คำแถลงร่วม" (Joint Declaration) เพื่อหยุดยิงชั่วคราวภายใต้เงื่อนไข
1. ถอนอาวุธหนัก ออกจากแนวชายแดน
2. เก็บกู้วัตถุระเบิด
3. ร่วมมือกันปราบปรามสแกมเมอร์
4. หาแนวทางบริหารพื้นที่ซับซ้อนร่วมกัน ไม่ให้เกิดปัญหา
ทั้งนี้มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ภายหลังพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย โดยอ้างว่า ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบที่จะหยุดยิงภายในเย็นนี้ พร้อมกลับสู่ปฏิญญาสันติภาพเดิมที่เคยทำกับทรัมป์ ซึ่งมีอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ช่วยประสาน
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังชี้ว่าเหตุทุ่นระเบิดที่ทำทหารไทยเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากเป็น "อุบัติเหตุ" แต่ฝ่ายไทยตอบโต้กลับอย่างรุนแรง
ในช่วงท้าย ทรัมป์ กล่าวว่าเป็นเกียรติที่ได้ช่วยเจรจาเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องบานปลาย และมั่นใจว่าทั้ง 2 ชาติพร้อมเดินหน้าสันติภาพและการค้ากับสหรัฐฯ