svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ภัยพิบัติหนัก! น้ำท่วม "อินโดฯ-ศรีลังกา-ไทย" คร่าชีวิตทะลุ 1,140 ราย

เหตุน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่จากพายุเขตร้อนใน อินโดนีเซีย, ศรีลังกา และไทย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,140 ราย ด้านผู้นำ อินโดนีเซีย ยอมรับรัฐบาลรับมือไม่ทัน ขณะที่ ศรีลังกา ประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ

KEY

POINTS

  • เกิดเหตุอุทกภัยและดินถล่มรุนแรงในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 1,140 ราย
  • อินโดนีเซียได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 604 ราย ตามมาด้วยศรีลังกา 366 ราย และภาคใต้ของไทย 176 ราย
  • ศรีลังกาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียยอมรับว่าไม่ได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์ฝนตกหนักและพายุถล่มในหลายประเทศของภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ เอเชียใต้ ส่งผลให้เกิด อุทกภัย และดินถล่มครั้งใหญ่ใน อินโดนีเซีย (สุมาตรา), ศรีลังกา, ภาคใต้ของไทย และตอนเหนือของมาเลเซีย โดยมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 1,140 ราย

ภัยพิบัติในสัปดาห์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ สภาพอากาศแปรปรวน ล่าสุดที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับภูมิภาค โดยก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ก็เพิ่งเผชิญกับไต้ฝุ่นถึงสองลูกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 242 ราย

อินโดนีเซีย: ยอดตายสูงสุด รับมือไม่ทัน

  • ตัวเลขความสูญเสีย: มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 604 ราย และยังคงสูญหายอีก 464 ราย จากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่
  • ความพร้อมรับมือ: นายติโต การ์นาเวียน รัฐมนตรีมหาดไทย อินโดนีเซีย ยอมรับว่า รัฐบาลไม่ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับภัยพิบัติขนาดใหญ่ในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดอาเจะห์ สุมาตราเหนือ และสุมาตราตะวันตก ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ประธานาธิบดีปราโบโว ซูบิอันโต ของ อินโดนีเซีย ได้เดินทางถึงสุมาตราเหนือเมื่อวันจันทร์ และกล่าวว่า รัฐบาลกำลังเร่งส่งความช่วยเหลือที่จำเป็น และได้ส่งเรือพยาบาลสองลำพร้อมเรือรบอีกสามลำบรรทุกความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ถนนถูกตัดขาด แม้ว่าเขาจะกล่าวว่า "ช่วงที่แย่ที่สุดผ่านไปแล้ว" แต่หน่วยงานสภาพอากาศยังคงคาดการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่

ภัยพิบัติหนัก! น้ำท่วม "อินโดฯ-ศรีลังกา-ไทย" คร่าชีวิตทะลุ 1,140 ราย

ศรีลังกา: ประกาศภาวะฉุกเฉินและร้องขอความช่วยเหลือ

  • ตัวเลขความสูญเสีย: มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 366 ราย และสูญหายอีก 367 ราย จากอุทกภัยและดินถล่มที่เกิดจากพายุไซโคลนดิทวาห์ (Cyclone Ditwah)
  • การรับมือ: ประธานาธิบดีอนูรา กุมารา ดิสสานายาเก ได้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ พร้อมระบุว่าเป็น "ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ใหญ่และท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา"

รัฐบาล ศรีลังกา ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ และมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ทางทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ แม้ว่าทีมกู้ภัยจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และญี่ปุ่น จะเดินทางมาถึงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่ายังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ไทยและมาเลเซีย: ความสูญเสียในภาคใต้

ในภาคใต้ของประเทศไทย ทางการได้ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 176 ราย โดยจังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด (131 ราย)

  • ผลกระทบ: องค์กร Save the Children ประมาณการว่ามีเด็กถึง 76,000 คน ที่ไม่สามารถกลับไปโรงเรียนได้
  • การตอบสนอง: แม้รัฐบาลจะออกมาตรการบรรเทาทุกข์ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตอบสนองต่อภัยพิบัติที่เพิ่มขึ้น จนนำไปสู่การพักงานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2 รายจากความล้มเหลวในการจัดการสถานการณ์

ขณะเดียวกัน ในมาเลเซียที่อยู่ใกล้เคียง รัฐเปอร์ลิสก็ประสบฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย

ภัยพิบัติหนัก! น้ำท่วม "อินโดฯ-ศรีลังกา-ไทย" คร่าชีวิตทะลุ 1,140 ราย

การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายอเล็กซานเดอร์ มาธิโอ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยเหล่านี้เป็นเครื่องย้ำเตือนอย่างชัดเจนว่าภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังกลายเป็น "ความปกติใหม่"

เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศต่าง ๆ ต้องลงทุนในระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ดีขึ้น, สถานที่หลบภัยสำหรับประชาชน และแนวทางแก้ไขปัญหาที่อิงธรรมชาติมากขึ้นในการจัดการภัยพิบัติ