
13 ตุลาคม 2568 หลังจาก ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้ สั่งการให้หน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง "ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในด้านการทูต เพื่อปกป้องพลเมืองเกาหลีใต้จากอาชญากรรมในกัมพูชา" หลังเกิดเคสล่าสุด ที่สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ เมื่อนักศึกษาชายวัย 22 ปี ถูกล่อลวงไปทำงานที่ไม่มีอยู่จริง และถูกกักตัวไว้เรียกค่าไถ่ ถูกทรมานจนเสียชีวิต
ล่าสุด ทางการกัมพูชาได้จับกุมสมาชิก 3 คน ขององค์กรอาชญากรรม "ฟิชชิ่ง" (Phishing) ที่ใช้วิธีการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตที่อาชญากรแฝงตัวเป็นบุคคล หรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ ทั้ง 3 คน ถูกตั้งข้อหาว่า “ทรมานและฆาตกรรม” หลังพบร่องรอยการทรมาน รวมถึงรอยฟกช้ำและคราบเลือดทั่วร่างกายของเหยื่อ
รายงานระบุว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยเป็นชาวจีนหนีคดี ที่เชื่อว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง "คดีเครื่องดื่มยาเสพติดกังนัม" (Gangnam Drug Drink Case) เมื่อปี 2566 โดยเขาแจกเครื่องดื่มที่มีสารเสพติดผสมอยู่ให้กับนักเรียน 13 คน โดยอ้างว่า เป็นงานชิมฟรีในย่านการศึกษาแดชีดง เขตคังนัม ของกรุงโซล และตำรวจเกาหลีใต้ได้เริ่มเปิดการสืบสวนแล้ว
สื่อเกาหลีใต้ รายงานว่า องค์กรอาชญากรรม “ฟิชชิ่ง” ของชาวจีนในกัมพูชา ได้มุ่งเป้าเล่นงานชาวเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง แต่คดีของนักศึกษาวัย 22 ปี ได้นำไปสู่การเปิดโปงที่น่ากลัว ยิ่งกว่านั้นคือตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ มีชาวเกาหลีใต้ที่ตกเป็นเหยื่อของการลักพาตัวและกักขังมากถึง 330 คน ส่วนใหญ่ถูกล่อลวงด้วย "งานค่าตอบแทนสูง"
นักศึกษาเคราะห์ร้าย ถูกระบุนามแฝงว่า "พัค จินซู" เป็นชาวเมืองเยชอน จังหวัดคย็องซังเหนือ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเดือนกรกฎาคม เขาบอกกับพ่อแม่ว่า มีคนชวนไปงานเอ็กซ์โป(EXPO) ที่จัดที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา ด้วยความหวังว่าอาจจะมีงานทำหลังเรียนจบ แต่ปรากฎว่า เมื่อไปถึงกลับถูกจับตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 50 ล้านวอน หรือราว 1.2 ล้านบาท
คนร้ายกระหน่ำโทรศัพท์ไปหาพ่อแม่ของเขา อ้างว่าเขาไปก่อเรื่องไว้ จำเป็นต้องเอาเงินไปไถ่ตัว เมื่อพ่อแม่ไปแจ้งตำรวจ ก็ได้รับคำแนะนำว่า ไม่ให้รีบส่งเงิน เพราะกลัวคนร้ายจะสังหารเขา และแนะนำให้ติดต่อไปที่สถานทูตเกาหลีใต้ในพนมเปญ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะไม่ทราบว่า เขาถูกควบคุมตัวไว้ที่ใด
สื่อเกาหลีรายงานว่า “พัค จินซู” ถูกพาไปไว้ในอาคารที่ตั้งอยู่กลางเทือกเขาโบกอร์ (Bokor) จังหวัดกำปอต และเป็นอาณาจักรของเหล่าแก๊งอาชญากรจีน ที่มีมากกว่า 20 แก๊ง ที่ควบคุมโรงแรม รีสอร์ต และอาคารที่ใช้เป็นที่กักขังเหยื่อไว้ประมาณ 20,000 คน
การบุกจับชาวจีน 3 คน และช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้ ทำให้ได้รู้ถึงโศกนาฎกรรมที่เกิดกับ “พัค จินซู” ที่ถูกกักขังไว้กับชาวเกาหลีใต้รุ่นราวคราวเดียวกัน โดยชายคนนี้ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงที่นี่มีกฎห้ามไม่ให้เรียกชื่อจริง แต่ตั้งเป็นรหัส โดย “พัค จินซู” ถูกตั้งรหัส A21 ส่วนชายเกาหลีที่ถูกให้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงมีรหัส A2 ซึ่ง A2 ก็ถูกล่อลวงมาเช่นกัน แต่ก็สายเกินไป เพราะถูกยึดพาสปอร์ตและโทรศัพท์ และถูกบังคับให้ทำคอลเซ็นเตอร์หลอกชาวเกาหลีด้วยกัน
“พัค จินซู” หรือ A21 ไม่ได้ทำคอลเซ็นเตอร์ เพราะเขาถูกจับไปเรียกค่าไถ่ ยิ่งเงินส่งช้า เขาก็ถูกทำร้ายต่างๆ นานา จนหนักที่สุดถึงขั้นกระดูกโผล่จากขาข้างซ้าย ทั้งยังถูกบังคับให้เสพยา ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ซึ่งก่อนหน้านั้น คนร้ายได้พาเขาไปโรงพยาบาล และโกหกว่าเป็นชาวจีน วัย 33 ปี แต่แพทย์สังเกตเห็นความผิดปกติจากบาดแผลและอาการบอบช้ำตามร่างกาย จึงได้แจ้งตำรวจ และ “พัค จินซู” ได้เสียชีวิตวันที่ 9 สิงหาคม 2568
ตอนนั้น สื่อที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลอย่าง Khmer Times ก็รายงานไปตามน้ำว่า พบศพของชายจีนชื่อ "ซ่งจินซิน" วัย 33 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ที่ “โบกอร์” สวนทางกับการชันสูตรของแพทย์ ที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตแท้จริงเป็นชาวเกาหลีใต้ “ถูกฆาตกรรม” ในใบมรณะบัตร ก็ระบุสาเหตุอย่างชัดเจนว่า "หัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากการถูกทรมาน" แต่จนถึงขณะนี้ พ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้รับศพของลูกชาย เพราะตำรวจกัมพูชาอ้างว่า ยังชันสูตรไม่เสร็จ
ประธานาธิบดีเกาหลีแถลงใช้ไม้แข็ง
https://www.youtube.com/watch?v=f10_r0VHdJs
ข่าว -สกู๊ปสแกมเมอร์ ในกัมพูชา