อาเซียนเห็นพ้องเจรจาภาษีทรัมป์ต้องไม่กระทบชาติสมาชิกอื่น

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย กล่าวปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันอังคาร (27 พฤษภาคม) ว่า ชาติอาเซียนมีความเข้าใจตรงกันว่า การตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเจรจาทวิภาคีของชาติสมาชิกกับสหรัฐฯ เรื่องมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชาติอื่นใด

และในประเด็นเมียนมา ที่ประชุมเห็นพ้องว่าจะยังคงดำเนินนโยบายเกี่ยวพันกับเมียนมาต่อไป และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเจรจาเกี่ยวกับเมียนมามุ่งเน้นการขยายหยุดยิง ตามด้วยการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และกระบวนการหารือเกี่ยวกับฉันทามติ 5 ข้อ เพื่อยุติความรุนแรงในเมียนมา

นอกจากการประชุมสุดยอดอาเซียนแล้ว ในปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการประชุมระหว่างอาเซียน,คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ จีซีซี และจีน (Asean-GCC-China) เป็นครั้งแรกด้วย โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นเรื่องความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของโลกสืบเนื่องจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ ที่ทำให้ชาติอาเซียนต้องเผชิญการเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงขึ้นอย่างมาก

และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีน กล่าวให้คำมั่นว่า จีนพร้อมกระชับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับอาเซียนและจีซีซีแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพ ซึ่งกันและกันและการปฏิบัติต่อกันด้วยความเท่าเทียม รวมถึงเพิ่มการประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาคร่วมกัน

เขาบอกด้วยว่า การเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างสามฝ่ายมีความสำคัญอย่างยิ่ง และจีนพร้อมหารือกับทั้งสองกลุ่มเกี่ยวกับความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง, การเพิ่มความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน, การขยายความร่วมมือด้านพลังงาน, เกษตรกรรม, ปัญญาประดิษฐ์, เศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาสีเขียว และการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนต่อประชาชน และความเข้าใจซึ่งกันและกัน นอกจากนี้สามฝ่ายควรเพิ่มการสื่อสารและการประสานงานในประเด็นพหุภาคีเพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาลโลกสู่ทิศทางที่เป็นธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น

อันวาร์ บอกด้วยว่า เนื่องด้วยอาเซียน จีซีซี และจีน มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีรวมกันสูงถึง 24.87 ล้านล้านดอลลาร์ และมีประชากรราว 2,150 ล้านคน ถือเป็นขนาดที่ใหญ่มากและมีโอกาสมหาศาลในการรวมพลังของตลาด, ส่งเสริมนวัตกรรม และส่งเสริมการลงทุนข้ามภูมิภาค

อาเซียนยังจัดการประชุมสุดยอดกับจีซีซีเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ หลังจากเปิดการประชุมครั้งแรกที่ซาอุดิอาระเบียในปี 2566 ซึ่งครั้งนั้นเห็นพ้องร่วมกันว่าจะจัดการประชุมทุก 2 ปี