22 พฤษภาคม 2568 ในที่สุดเพนตากอน ก็ยอมรับ "พระราชวังบินได้" จาก กาตาร์ เพื่อนำมาโมดิฟายเป็น "Air Force One" ลำใหม่ให้ ประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ใช้จนกว่าจะพ้นตำแหน่ง ท่ามกลางการคาดหมายว่า งบที่ใช้ในการโมดิฟายอาจเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ และเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ
พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน (Pentagon) ได้รับมอบเครื่องบิน Boeing 747-8 จากกาตาร์ เพื่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่ง "Air Force One" ลำใหม่ หลังผ่านการ "อัพเกรด" ภายใต้มาตรการ "รักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม และข้อกำหนดการปฏิบัติภารกิจ"
เพนตากอน ระบุว่า รัฐมนตรีกลาโหม ได้รับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 747 จากกาตาร์ ตามกฎและระเบียบของรัฐบาลกลางทั้งหมด โดยจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่า มีการพิจารณาใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และข้อกำหนดการปฏิบัติภารกิจสำหรับเครื่องบินที่ใช้ขนส่งสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ"
เครื่องบินรุ่นนี้ ถ้าเป็นลำใหม่ จะมีมูลค่าสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ ตามการประเมินของ "Cirium" บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านการบินที่น่าเชื่อถือที่สุดของโลก ระบุว่า ถ้าเป็นราคามือ 2 เช่น ลำที่กาตาร์มอบให้ทรัมป์ น่าจะลดลงเหลือเพียง 1 ใน 4 แต่แม้จะมีอายุการใช้งานมานาน 13 ปี แต่ภายในได้ถูกตกแต่งอย่างหรูหรา จนได้รับฉายาว่า "พระราชวังบินได้"
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ที่จริง ข้อตกลงยังไม่แล้วเสร็จ ยังมีการดำเนินการของทีมกฎหมาย และไม่มีการเปิดเผยว่า เป็นการรับมอบในฐานะ "ของขวัญ" หรือ มีการจ่ายเงินหรือไม่
ขณะที่ ทรัมป์ ตอบคำถามเพียงว่า การที่กาตาร์มอบเครื่องบินเจ็ตให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ "เป็นเรื่องดี"
นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม บิน เจเบอร์ อัล ธานี ของกาตาร์ ให้สัมภาษณ์ สำนักข่าว Bloomberg เมื่อวันจันทร์ (19 พฤษภาคม) ว่า
"เรื่องเครื่องบินลำนี้ เป็นธุรกรรมระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งดำเนินการด้วยความโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่เรามีร่วมกันมาโดยตลอดหลายทศวรรษ"
ต่อมาเมื่อวันอังคาร (20 พฤษภาคม) มีรายงาน เฮกเซธ สั่งให้กองทัพอากาศเริ่มวางแผนดัดแปลงเครื่องบินลำนี้แล้ว ตามคำสั่งของกระทรวงกลาโหม แต่รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเป็นความลับ
โดย วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคฯ บอกว่า "วันนี้คือวันที่มืดมนของประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เมื่อประธานาธิบดีรับของขวัญจากรัฐบาลต่างชาติ ที่เปรียบเสมือนการรับสินบนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์"
วุฒิสมาชิกเดโมแครตอีกหลายคน รวมทั้งวุฒินสมาชิกแทมมี ดั๊กเวิร์ธ ได้เตือนว่า การปรับแต่งเครื่องบินให้ปลอดภัยตามมาตรฐาน "Air Force One" อาจมีค่าใช้จ่ายสูงเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ และเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ
โดยวุฒิสมาชิกดั๊กเวิร์ธ ชี้ว่า สหรัฐฯ มีเครื่องบิน Air Force One อยู่แล้ว 2 ลำ ที่ใช้งานได้ดี และ "ไม่มีความจำเป็นต้องนำเครื่องบินพลเรือนมาแปลงสภาพในระดับนี้"
แต่ถ้าเทียบกับโครงสร้างในปัจจุบันของ Air Force One ลำใหม่จำนวน 2 ลำ ที่เจอทั้งปัญหาล่าช้า และใช้งบทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้วนั้น การโมดิฟายเครื่องบินของกาตาร์ก็ไม่น่าจะถูกกว่าเท่าไหร่
แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ไม่อาจสั่นคลอนทรัมป์ได้ เพราะเขาบอกว่า การปฏิเสธไม่รับเครื่องบินลำนี้ ถือว่า "โง่อย่างที่สุด" และกาตาร์ก็เป็นฝ่ายเสนอเครื่องบินลำนี้ให้เป็น "ของขวัญ"
แม้ว่า สหรัฐฯ จะมีกฎหมายที่มีข้อจำกัดที่เข้มงวดต่อการรับของขวัญจากรัฐบาลต่างชาติ เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ การแทรกแซงจากต่างประเทศ และเครื่องบินลำนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการตีความทางกฎหมาย
แต่ก็มีรายงานว่าเครื่องบิน ที่ปัจจุบันจอดอยู่ที่เมืองซาน อันโตนิโอ รัฐเท็กซัส มีบริษัท "L3 Harris Technologies" ได้ทำสัญญาเพื่อจัดการโมดิฟายแล้ว