
ตำรวจอินเดีย เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวหลายคนถูกยิงจากเหตุโจมตีที่หุบเขาไบซารัน ห่างจากเมืองพาฮาลแกม เมืองตากอากาศในรัฐจัมมูร์และแคชเมียร์เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งใหญ่พุ่งเป้าพลเรือนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และเชื่อว่า ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 10 คน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นชาวต่างชาติหรือไม่
ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า กลุ่มมือปืนเปิดฉากยิงใส่นักท่องเที่ยวในระยะเผาขน และผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง บอกว่า สามีถูกยิงที่ศีรษะ และอีก 7 คน ได้รับบาดเจ็บ
กองทัพอินเดียที่รับผิดชอบรักษาความมั่นคงในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ บอกว่า กำลังตามล่าผู้ก่อเหตุเพื่อนำตัวมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสืบสวนแห่งชาติลงพื้นที่เพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ธุรกิจและสถานศึกษาทั่วรัฐปิดทำการ
เหตุรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯ เยือนอินเดียนาน 4 วันพร้อมกับครอบครัว และเขาพบหารือเรื่องการค้ากับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เมื่อวันจันทร์ โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุเขาอยู่ในเมืองชัยปุระ นอกจากนี้ผู้นำโลก ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ร่วมประณามเหตุโจมตีพลเรือนและต่อต้านการก่อการร้าย และนายกรัฐมนตรีโมดียุติการเยือนซาอุดิอาระเบียนาน 2 วันก่อนกำหนด และเดินทางกลับอินเดีย
ดินแดนแคชเมียร์ในเทือกเขาหิมาลัยถูกแบ่งเป็นส่วนของอินเดียและปากีสถาน และยังคงเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างสองประเทศ กลุ่มติดอาวุธในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดียต่อสู้กับกองทัพมานานกว่า 20 ปี เพื่อต้องการเรียกร้องเอกราช หรือเข้าเป็นส่วนหนึ่งของปากีสถาน ดินแดนแคชเมียร์มักเกิดเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง แต่แทบจะไม่ค่อยมีการโจมตีนักท่องเที่ยว
ขณะที่กลุ่มติดอาวุธที่ไม่เป็นที่รู้จักนักภายใต้ชื่อ The Resistance Front โพสต์ในโซเชียลมีเดียโดยอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตี และแสดงความพอใจที่คนนอกพื้นที่เข้าไปตั้งถิ่นฐานในแคชเมียร์
พรรครัฐบาลอินเดีย กล่าวหาว่า ปากีสถานส่งเสริมการก่อการร้ายในดินแดนแคชเมียร์ และไม่ต้องการให้เกิดสันติภาพและการท่องเที่ยวในจัมมูและแคชเมียร์ แต่คาวาจา อาซิฟ รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถานปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สนับสนุนการก่อการร้าย