"ปูติน" เยี่ยมทหารในแคว้นคูสก์ กองทัพใกล้ยึดคืนสำเร็จ

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียซึ่งสวมเครื่องแบบทหารเดินทางไปเยี่ยมทหารในแนวหน้าที่แคว้นคูสก์ ทางภาคตะวันตกของรัสเซียเมื่อวันพุธ (12 มีนาคม) โดยเป็นการเยี่ยมพื้นที่นี้ครั้งแรกนับจากกองทัพยูเครนบุกข้ามพรมแดนและเข้ายึดครองพื้นที่บางส่วนตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และเขาบอกกับทหารด้วยว่า พวกเขามีภารกิจ คือ ขับไล่ศัตรูที่บุกรุกออกไปให้หมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้นที่สุดเท่าที่ทำได้ และปลดแอกดินแดนแห่งนี้ รวมทั้งสั่งการให้พิจารณาจัดตั้งเขตปลอดภัยตามแนวพรมแดน

การเยือนของปูตินครั้งนี้มุ่งปลุกขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารในขณะที่กองทัพกำลังรุกคืบเข้าใกล้พื้นที่ส่วนสุดท้ายที่ยังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารยูเครน และปฏิบัติการของรัสเซียเพิ่มความหนักหน่วงตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม หรือเพียงหนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือทางทหารและตามด้วยการระงับแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองแก่ยูเครน เพื่อมุ่งกดดันให้ยูเครนเข้าร่วมการเจรจายุติสงคราม

และจากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และยูเครนนาน 9 ชม.ครึ่งที่เมืองเจดดาห์ของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันอังคาร ยูเครนยอมรับแผนหยุดยิงนาน 30 วันที่เสนอโดยสหรัฐฯ ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการยุติการสู้รบทั้งในพื้นราบ, ทางอากาศ และทางทะเล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ บอกเมื่อวันพุธด้วยว่า ขณะนี้ขึ้นอยู่กับรัสเซียว่าจะตัดสินใจยอมรับข้อเสนอหยุดยิงหรือไม่ และทีมเจรจาของสหรัฐฯ มุ่งหน้าไปรัสเซียแล้วเพื่อหารือเรื่องนี้

ทำเนียบเครมลิน เปิดเผยด้วยว่า ประธานาธิบดีปูตินกำลังศึกษาข้อเสนออย่างระมัดระวัง

และอีกหลายชั่วโมงต่อมาสื่อทางการรัสเซียเผยภาพประธานาธิบดีปูตินพบหารือกับวาเลรี เกราซิมอฟ นายพลระดับสูง ที่แคว้นคูสก์ และเกราซิมอฟ อ้างว่า ทหารรัสเซียสามารถชิงพื้นที่คืนได้มากกว่า 86% จากทั้งหมดที่ยูเครนยึดไว้ได้ในแคว้นคูสก์แล้ว และทหารยูเครน 430 นาย ถูกจับเป็นเชลย ส่วนทหารที่เหลือถูกล้อมไว้แล้ว พร้อมทั้งบอกว่า ความหวังของยูเครนที่จะใช้แคว้นคูสก์เป็นไพ่ต่อรองในการเจรจาพังทลายหมดแล้ว

โฆษกทำเนียบเครมลิน บอกในวันพฤหัสบดีด้วยว่า ปฏิบัติการขับไล่ทหารยูเครนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว

ชณะเดียวกันกองทัพยูเครนยอมรับว่า ทหารถูกขับไล่ออกจากบางชุมชนในแคว้นคูสก์ในช่วงหลายวันมานี้ และอาจมีการถอยร่นมากขึ้นไปยังจุดที่ปลอดภัยเพื่อรักษาชีวิตทหาร

ขณะที่กองทัพสองฝ่ายยังคงส่งฝูงโดรนโจมตีฝ่ายตรงข้ามช่วงเช้ามืด โดยยูเครนอ้างว่ายิงโดรนของรัสเซียร่วง 74 ลำ จาก 117 ลำ ซึ่งพุ่งเป้าในหลายพื้นที่รวมถึงซูมี, โอเดสซา, คาร์คีฟ และเคียฟ ส่วนรัสเซียอ้างว่ายิงสกัดโดรนของยูเครน 77 ลำ โดย 6 ลำถูกยิงตกในแคว้นคูสก์ และลำอื่น ๆ ถูกทำลายในเบลโกรอด, รอสตอฟ,เบรียนสก์ และอื่น ๆ