ลัตเวีย, ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย ตัดขาดการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของรัสเซียแล้วเมื่อวันเสาร์ (8 ธันวาคม) และกำหนดเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของสหภาพยุโรป (อียู) ในเวลา 12.00 น.ของวันอาทิตย์ (9 กุมภาพันธ์) ตามเวลามาตรฐานสากล
เจ้าหน้าที่ของลัตเวียใช้เครนขึ้นไปตัดสายไฟแรงสูงในเมืองวิลากา ห่างจากชายแดนรัสเซีย 100 เมตร หลังทางการตัดระบบการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของรัสเซีย และคาสพาร์ส เมลนิส รัฐมนตรีพลังงานประกาศว่า เราจะไม่ใช้ไฟฟ้าจากรัสเซียอีกต่อไป
การเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้ากับรัสเซียเป็นสิ่งสุดท้ายของความเกี่ยวข้องระหว่าง 3 ชาติบอลติก ที่เคยเป็นสมาชิกในเครือสหภาพโซเวียต ก่อนสถาปนาเป็นประเทศหลังการล่มสลายของโซเวียต และเข้าเป็นสมาชิกของอียู และองค์การป้องกันสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในปี 2547
แผนการตัดขาดจากระบบไฟฟ้าของรัสเซียเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานหลายสิบปี แต่ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นหลังจากรัสเซียผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในปี 2557
ทั้งลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย ซึ่งสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขัน หยุดซื้อไฟฟ้าจากรัสเซีย นับจากกองทัพรัสเซียบุกยูเครนในต้นปี 2565 แต่ยังคงต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าของรัสเซียเพื่อควบคุมความถี่และคงความเสถียรของเครือข่ายเพื่อหลีกเลี่ยงไฟดัน
นอกจากนี้ทั้ง 3 ประเทศทุ่มงบประมาณราว 1,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับจากปี 2561 เพื่อปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถเชื่อมต่อกับของอียู