โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 โพสต์ในแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียลของเขาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะมอบหมายให้เดวิด เปอร์ดู เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีน โดยเชื่อว่า ประสบการณ์ในฐานะนักธุรกิจระหว่างประเทศ และซีอีโอของบริษัทที่ติดอันดับ 500 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก และการเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากรัฐจอร์เจีย จะสามารถนำประสบการณ์มาช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ได้ นอกจากนี้นายเปอร์ดูยังอาศัยอยู่ในสิงคโปร์และฮ่องกง และทำงานในเอเชียและจีนหลายปี
ทรัมป์ระบุด้วยว่า นายเปอร์ดูจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำยุทธศาสตร์ของเขาไปปฏิบัติเพื่อรักษาสันติภาพในภูมิภาค และสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำจีนที่นำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผลได้
นายเปอร์ดูดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกช่วงปี 2558-2564 เคยอาศัยในฮ่องกงระหว่างเป็นผู้บริหารธูรกิจนาน 40 ปี และการแต่งตั้งเปอร์ดูเป็นการหวนสู่แนวปฏิบัติดั้งเดิมหลายสิบปีที่มักเลือกอดีตนักการเมืองเป็นทูตประจำจีน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เลือกนักการทูตมืออาชีพ นิโคลัส เบิร์นส์ เป็นทูตประจำปักกิ่งเมื่อปี 2564
แต่ในสมัยที่เป็นวุฒิสมาชิก เปอร์ดูมีจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน เขาเคยเขียนบทความร่วมกับวุฒิสมาชิกของรีพับลิกันอีก 3 คน ให้กับฟ็อกซ์นิวส์ ในปี 2561 ที่บอกว่า ทัศนะที่ล้าสมัยของสหรัฐฯ ต่อจีน อาจส่งผลให้เสียโอกาส หรือ เป็นการคำนวณผิดพลาด หรือความชะล่าใจที่อันตรายร้ายแรง พร้อมกับเสนอว่าควรต้องมีแผนระยะยาวเพื่อแข่งขันและรับมือกับอิทธิพลทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นของจีน
และภาระหนักที่ท้าทายกำลังรอนายเปอร์ดูอยู่เบื้องหน้า เมื่อทรัมป์เตรียมเดินหน้าสู่การทำสงครามการค้าเต็มรูปแบบกับจีน โดยประกาศแล้วว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรอีก 10% กับสินค้าจีนทั้งหมด เพิ่มเติมจากอัตราปัจจุบัน หลังจากในช่วงหาเสียงเคยขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้า 60% หรือมากกว่านี้สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด