นายกรัฐมนตรีคริส ฮิปกินส์ ของนิวซีแลนด์ แถลงในวันจันทร์ (20 ก.พ.) ว่า พายุไซโคลน “แกเบรียล” ที่พัดกระหน่ำเกาะเหนือเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และมีผู้ที่ยังไม่พบตัว 6,517 คน แต่เบื้องต้นทราบว่า 4,260 คนปลอดภัย และตำรวจกำลังตามหาบุคคลที่เหลือ ส่วนครัวเรือนและธุรกิจราว 15,000 รายยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้
นอกจากนี้เขาขยายเวลาบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 6 เขตบนเกาะเหนือ ซึ่งรวมถึงเมืองออกแลนด์ ออกไปอีก 7 วัน เพื่อสนับสนุนภารกิจการฟื้นฟูและการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ประสบภัย หลังจากประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการประกาศครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ผู้นำนิวซีแลนด์ กล่าวด้วยว่า ภัยพิบัติครั้งนี้สร้างความเสียหายในระดับที่ไม่เคยเห็นในนิวซีแลนด์ในอย่างน้อยหนึ่งชั่วอายุคน
ด้านแกรนต์ โรเบิร์ตสัน รัฐมนตรีคลัง ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลการฟื้นฟูภัยพิบัติไซโคลน ประเมินว่า งบประมาณที่รัฐบาลจะต้องใช้ฟื้นฟูบ้านเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุ “แกเบรียล” อาจสูงถึง 8,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.9 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับงบที่ใช้ฟื้นฟูเมืองไครสต์เชิร์ช หลังแผ่นดินไหวในปี 2554 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 185 ราย และหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้รัฐบาลประกาศงบบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินเบื้องต้น 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซ่อมแซมถนนในพื้นที่ประสบภัย และอีก 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ผลิตสินค้าจำเป็น และอาจจัดสรรงบบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูเพิ่มเติมในอนาคต
ขณะนี้ถนนหลายสายที่ได้รับความเสียหายจากพายุยังถูกปิดไม่ให้สัญจร รถบรรทุกไม่สามารถรับส่งนมได้ การตัดไม้ต้องหยุดชะงัก การแปรรูปเนื้อชะลอลง การเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลและลูกแพร์หยุดชะงัก ความเสียหายทางการเกษตรอาจทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น และอาจยิ่งซ้ำเติมอัตราเงินเฟ้อ ที่สูงถึง 7.2% ใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี