องค์กรสิทธิฯ ขึ้นบัญชีจับตากัมพูชาเป็น “รัฐกดขี่”

องค์กร CIVICUS ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมระดับโลก ที่ติดตามเสรีภาพขั้นพื้นฐานทั่วโลก เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในกัมพูชาในวันพฤหัสบดี ระบุว่า กัมพูชาประสบปัญหาเสรีภาพขั้นพื้นฐานถดถอยลงอย่างน่ากังวล เนื่องจากทางการใช้ระบบกฎหมายเพื่อจำกัดและดำเนินคดีอาญากับหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน นักเคลื่อนไหวเยาวชน สหภาพแรงงาน สื่อมวลชนอิสระ นักการเมืองฝ่ายค้าน และผู้วิจารณ์รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน 

รายงานระบุด้วยว่า เพื่อรักษาอำนาจบริหารประเทศที่ยาวนานมาเกือบ 40 ปี นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ใช้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่จำกัดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมืองกัมพูชา รัฐบาลมีการใช้ระบบยุติธรรมคดีอาญาโดยมิชอบเพื่อคุกคามและดำเนินคดีกับผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน สหภาพ และสื่อมวลชน และการปิดสำนักงานสื่อยิ่งตอกย้ำถึงการถดถอยของประชาธิปไตยในกัมพูชา

นอกจากนี้ CIVICUS ระบุว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน มีส่วนสั่งการในการลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานอย่างเป็นระบบในกัมพูชาในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และจัดให้กัมพูชาอยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกจับตาในกลุ่ม “รัฐกดขี่” เช่นเดียวกับ อิหร่าน ซูดาน ซิมบับเว และเปรู 

รายงานยังระบุว่า นักต่อสู้และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในกัมพูชายังคงเผชิญการกดขี่ข่มเหง เสรีภาพสื่อตกอยู่ในความเสี่ยง โดยสถานีวิทยุและหนังสือพิมพ์ถูกปิด สำนักข่าวถูกกำจัด และนักข่าวถูกดำเนินคดี ทำให้สื่ออิสระสูญสลาย 

เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีฮุน เซน เพิ่งสั่งปิด Voice of Democracy (VOD) สื่ออิสระที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่ง หลังจากนำเสนอรายงานว่า พล.ท. ฮุน มาเนต บุตรชายและทายาททางการเมืองทำเกินขอบเขตอำนาจ จากกรณีลงนามในข้อตกลงที่รัฐบาลจัดสรรความช่วยเหลือแผ่นดินไหวแก่ตุรกี

นอกจากนี้ CIVICUS ระบุว่า เนื่องจากมีนักโทษการเมืองมากกว่า 50 คนอยู่ในเรือนจำ ผู้นำและผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายค้านอีกว่า 150 คนตกเป็นเป้าในการดำเนินคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง จึงมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการปราบปรามฝ่ายต่อต้านที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงก่อนมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค. 

CIVICUS  มีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลกัมพูชาถอนข้อกล่าวหาทั้งหมดแก่ผู้ที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการชุมนุม และการแสดงความคิดเห็น และยุติการพิจารณาคดีในวงกว้าง การจับกุมตามอำเภอใจ การใช้ความรุนแรง การคุกคาม และการข่มขู่ฝ่ายต่อต้านทางการเมืองและสื่อมวลชนควรได้รับการคุ้มครองจากการข่มขู่ และอนุญาตให้ทำงานได้อย่างอิสระโดยปราศจากความกลัวการตอบโต้จากการแสดงความเห็นในเชิงวิจารณ์หรือการเปิดโปงการกระทำผิดของรัฐบาล 

นอกจากนี้ CIVICUS เรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันให้รัฐบาลกัมพูชาคุ้มครองเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง และแสดงความกังวลในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ในกัมพูชา เช่น การนำเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และริเริ่มมาตรการเพิ่มเติมที่จำเป็น