เกาหลีใต้เล็งบังคับให้คนขับรถบรรทุกยุติการสไตรก์

การผละงานของคนขับรถบรรทุกเริ่มส่งผลกระทบให้การขนส่งสินค้าชะงักงันในอุตสาหกรรมซีเมนต์และเหล็กในวันศุกร์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ยานยนต์ และปิโตรเคมีอาจได้รับผลกระทบด้วยหากการประท้วงยืดเยื้อ

สมาคมอุตสาหกรรมซีเมนต์ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า โรงงานซีเมนต์ไม่สามารถขนส่งสินค้าส่วนใหญ่จากทั้งหมดวันละ 200,000 ตันได้เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากคนขับรถขนส่งซีเมนต์เข้าร่วมการผละงานประท้วง และการสไตรก์ทำให้งานเทคอนกรีตในสถานที่ก่อสร้างทั่วประเทศต้องล่าช้า และผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จอาจต้องระงับการผลิตอย่างเร็วช่วงต้นสัปดาห์หน้า หากซีเมนต์ไม่มาส่งตามเวลา

คนขับรถบรรทุกเริ่มหยุดงานประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการสไตรก์ครั้งที่ 2 ในปีนี้ภายในเวลาไมถึง 6 เดือน หลังจากการวอล์คเอาต์นาน 8 วันเมื่อเดือน มิ.ย. ส่งผลให้การขนส่งสินค้าล่าช้าครั้งใหญ่ และการผลิตหยุดชะงัก สร้างความเสียหายเกือบ 1,210 ล้านดอลลาร์

การประท้วงครั้งล่าสุดมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลขยายระยะเวลาประกันค่าระวางสินค้าขั้นต่ำ โดยอ้างราคาเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่การประกันค่าระวางขั้นต่ำมีกำหนดสิ้นสุดในสิ้นปีนี้

และในวันศุกร์นี้ สมาคมอุตสาหกรรม 30 แห่ง ซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมซีเมนต์ ยานยนต์ เหล็ก และอื่น ๆ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คนขับรถบรรทุกกลับเข้าทำงานตามปกติ และเตือนว่า การกระทำของพวกเขาจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชขาชน ตราบใดที่พวกเขาทำให้โลจิสติกส์ตกเป็นตัวประกัน

ข้อมูลจากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคม เปิดเผยว่า คนขับรถบรรทุกที่เป็นสมาชิกสหภาพราว 7,700 คนเข้าร่วมการหยุดงานประท้วง หรือเกือบ 35% จากสมาชิก 22,000 คน

ประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อคืนวันพฤหัสบดี โดยเตือนว่า รัฐบาลจะไม่อดกลั้นต่อการกระทำที่ส่งผลให้ระบบโลจิสติกส์ตกเป็นตัวประกันในสถานการณ์วิกฤตของชาติ และหากยังคงระงับการขนส่งสินค้าต่อไปอย่างไร้ความรับผิดชอบ รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือก นอกจากใช้มาตรการต่าง ๆ รวมถึง คำสั่งให้คนงานที่หยุดประท้วง กลับเข้าทำงาน

ภายใต้กฎหมายอนุญาตให้กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคม สามารถออกคำสั่งให้คนงานที่ผละงาน กลับเข้าทำงาน ในกรณีที่บริษัทโลจิสติกส์ หรือ คนงาน ทำให้เกิดปัญหาการขนส่งสินค้าหยุดชะงักด้วยการหยุดงานอย่างไม่มีเหตุอันควร และหากฝ่าฝืนคำสั่งให้กลับเข้าทำงาน อาจมีโทษจำคุกถึง 3 ปี หรือ ปรับ 30 ล้านวอน