แนนซี เพโลซี ยุติบทบาทผู้นำเดโมแครตในสภาล่างสหรัฐฯ

แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ วัย 82 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสที่ทรงอิทธิพลที่สุดของพรรคเดโมแครต แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เธอจะไม่ลงชิงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ และบอกว่า ถึงเวลาเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เป็นผู้นำเดโมแครตในสภาล่าง

นอกจากนี้เธอกล่าวด้วยว่า ประชาธิปไตยของอเมริกายิ่งใหญ่แต่เปราะบาง และควรได้รับการปกป้องจากกลุ่มคนที่มุ่งทำลาย ซึ่งเธอหมายถึงเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาเมื่อเดือน ม.ค. ปีที่แล้ว และผลการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนว่า ประชาชนยืนหยัดต้านทานการทำลายประชาธิปไตย ต่อต้านความรุนแรงและจลาจล หลังจากนั้นเหล่า ส.ส. ลุกขึ้นยืนปรบมือเพื่อให้เกียรติเธอ

เพโลซีจะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจนถึงเดือน ม.ค. ปีหน้า เมื่อสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่เข้ารับตำแหน่ง หลังการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อวันที่ 8 พ.ย. โดยพรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ และคาดว่า เควิน แมคคาร์ธี จะได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ส่วนเพโลซีจะยังคงทำหน้าที่ ส.ส. จากรัฐแคลิฟอร์เนียจนถึง ม.ค. 2568 หลังได้รับเลือกตั้งครั้งแรกตั้งแต่ปี 2530

ขณะที่ฮาคีม เจฟฟรีส์ ส.ส.จากรัฐนิวยอร์ก ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่า จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ ซึ่งจะทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนผิวสีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ

เพโลซีเริ่มเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยหรือผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรในปี 2546 และเคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร 2 ครั้ง หลังการเลือกตั้งในปี 2549 และปี 2561 แต่สูญเสียตำแหน่งดังกล่าวหลังการเลือกตั้งในปี 2563

ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอันดับ 3 รองจากประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี  เธอได้รับยกย่องอย่างกว้างขวางที่สามารถผลักดันให้กฎหมายประกันสุขภาพของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผ่านความเห็นชอบได้สำเร็จลุล่วง

นอกจากนี้เธอยังกล้าท้าทายโดยตรงต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ตลอดระยะเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเธอได้รับการจดจำอย่างมากจากการฉีกสำเนาคำแถลงนโยบายประจำปีของทรัมป์อยู่ด้านหลังขณะเขากำลังแถลงต่อที่ประชุมสภา

ขณะที่เหตุการณ์คนร้ายบุกบ้านพักของเธอเพื่อตามหาตัวเธอและใช้ค้อนทุบศีรษะสามีจนกะโหลกร้าวเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้เกิดการคาดการณ์มากมายเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องอนาคตทางการเมืองของเธอ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับบรรยากาศความรุนแรงทางการเมือง