นายควง เซร็ง ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ได้ออกคำสั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ธุรกิจทุกแห่งบนเส้นทางสายหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Russian Federation Blvd จะต้องปิด รวมทั้งปั๊มน้ำมันกับสถานที่ก่อสร้าง และเรียกร้องให้ประชาชนประดับธงชาติตามบ้านเรือนด้วย
นายควงยังเรียกร้องให้ 14 เขตของเมืองหลวง ให้ตรวจสอบว่ามีธุรกิจใดในพื้นที่ที่เข้าข่ายเสี่ยง เช่น บาร์คาราโอเกะ (KTV), ไนต์คลับ หรือลานจอดรถยนต์และมอเตอร์ไซค์บนถนนก็ให้สั่งปิดในระหว่างการประชุมอาเซียนตั้งแต่วันที่ 10-13 พฤศจิกายน ส่วนเจ้าของโรงแรมและเกสต์เฮาส์ก็จะต้องตรวจสอบบัตรประจำตัวของผู้เข้าพักทุกวัน และมอบรายชื่อแขกที่เข้าพักทุกคนแก่เจ้าหน้าที่ และห้ามการชุมนุมใด ๆ ที่เกสต์เฮาส์
ส่วนทางน้ำก็มีข้อห้ามเช่นกันไม่ว่าจะเป็นบ่อเลี้ยงปลา, เรือสำหรับนักท่องเที่ยวหรือเรือประมง เนื่องจากเกรงว่าจะรบกวนความเป็นระเบียบเรียบร้อยในช่วงสำคัญ ส่วนประชาชนทั่วไปก็ให้รักษาความสะอาดบ้านเรือนและธุรกิจ ทางการในเขตจอมการ์มนได้สั่งให้คอมมูนทั้ง 5 แห่ง ทำการตรวจสอบหาวัตถุระเบิดทุกวัน และตรวจสอบผู้พักอาศัยตามโรงแรม เกสต์เฮาส์ และห้องเช่า รวมถึงห้ามตากเสื้อผ้าหน้าบ้านด้วย
การรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดมากที่สุดในบริเณใกล้โรงแรม Sofitel ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม Asean Business Summit ในวันที่ 9-10 พฤศจิกายน ส่วนคลับต่าง ๆ ที่อยู่รอบสถานทูตรัสเซียและปั๊มน้ำมันที่ Norodom Blvd ต้องปิดเช่นกัน
มีการนำรถถังและรถบรรทุกของตำรวจประทับตรา BHQ จอดอยู่ริมถนน ที่ว่างเปล่าทางทิศเหนือของโรงแรม Sokha ขณะที่ลานจอดรถเต็มไปด้วยรถพยาบาลที่สแตนด์บาย ซึ่ง BHQ เป็นสัญลักษณ์หน่วยองครักษ์ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน มีเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนอยู่เหนือท้องฟ้าทุกเวลา 14.00 น. มีการวางกำลังและตั้งแบร์ริเออร์ด้านหน้าโรงแรม Hyatt Regency, Raffles และ Vattanac Tower ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม Rosewood ด้วยเช่นกัน
บรรดาพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ต่างบอกว่า คำสั่งให้เลิกค้าขายชั่วคราวส่งผลกระทบต่อพวกเขา เช่น บางคนมีลูก 5 คน และจำเป็นต้องมีรายได้วันละ 10-12.5 ดอลลาร์ แม้บางคนจะชื่นชมที่เห็นบ้านเมืองสะอาดแต่ก็ขาดรายได้ แม่ค้าบางคนยอมเสี่ยงไปนั่งขายแม้จะถูกเตือน โดยบอกว่าพร้อมจะวิ่งหนีถ้าเห็นรถของทางการ เพราะจำเป็นต้องมีเงินไว้จ่ายค่าเช่าบ้าน