สหประชาชาติระบุว่าประชากรโลกกำลังจะแตะ 8 พันล้านคน วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งนาตาเลีย คาเนม ผู้อำนวยการบริหารกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ระบุว่าเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งสำหรับมนุษยชาติ จากการที่มนุษย์มีอายุขัยยืนยาวขึ้นและการเสียชีวิตของมารดากับเด็กลดลง แต่ก็ตระหนักดีว่าช่วงเวลานี้อาจจะไม่ใช่เวลาสำหรับการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะคนที่แสดงความกังวลเรื่องโลกมีประชากรมากเกินไป เธออยากบอกว่าจำนวนประชากรมนุษย์ไม่ใช่สาเหตุให้ต้องหวาดกลัว ซึ่งตรงกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคน ที่บอกว่า แทนที่จะกลัวการมีประชากรมากเกินไป เราควรมุ่งเน้นไปที่การใช้ทรัพยากรของโลกมากเกินไป โดยผู้มั่งคั่งที่สุดในหมู่พวกเราต่างหาก
ปัญหาที่น่าวิตกอย่างยิ่งก็คือ การบริโภคทรัพยากรที่มากเกินไปของเหล่ามนุษย์โลกที่มีฐานะมั่งคั่งที่สุด โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรชีวภาพ เช่น ที่ดินและป่าไม้ในปริมาณที่มากกว่าที่โลกสามารถสร้างใหม่ในแต่ละปี ขณะที่ทีมนักวิจัยของเครือข่ายรอยเท้านิเวศโลก (Global Footprint Network) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ระบุว่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมากเกินไปทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน การมีประชากรโลกมากขึ้นก็จะยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก่อนหน้านี้สหประชาชาติได้ประเมินว่า ประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 8,500 ล้านคน ในปี 2030 และ 9,700 ล้านคน ในปี 2050 และจะทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ราว 1 หมื่น 4 ร้อยล้านคน ในช่วงทศวรรษที่ 2080 ซึ่งคาดว่า กลุ่มประเทศอนุภูมิภาคแอฟริกาใต้ทะเลทรายซาฮารา (Sub-Saharan Africa) จะครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของประชากรโลกจนถึงปี 2050 และประชากรมากกว่าครึ่งที่เพิ่มขึ้นจนถึงปี 2050 จะกระจุกตัวอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ คองโก, อียิปต์, เอธิโอเปีย, อินเดีย, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์ และแทนซาเนีย