หลังจากพระราชพิธีพระบรมศพแบบรัฐพิธีที่จัดขึ้นภายในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาราวเที่ยงวันหรือ 18.00 น. ตามเวลาไทย ราชรถปืนใหญ่อัญเชิญพระบรมศพออกจากมหาวิหารผ่านพระราชวังบักกิงแฮม พระราชฐานของพระองค์มุ่งหน้าไปยังประตูชัยเวลลิงตัน อาร์ค ที่เป็นจุดสุดท้ายของกรุงลอนดอน โดยมีพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จตามหลังหีบพระบรมศพระยะทาง 2.4 กม. ประตูชัยถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งสุดท้ายของสมเด็จพระราชินีนาถสู่ปราสาทวินด์เซอร์โดยมีการยิงสลุตเป็นระยะจากสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ค และหอนาฬิกาบิ๊กเบนลั่นระฆังทุก 1 นาทีรวม 96 ครั้งเท่าจำนวนพระชนมพรรษา
จากนั้นหีบพระบรมศพได้รับการประดิษฐานขึ้นรถบรรทุกพระบรมศพ มุ่งหน้าไปยังปราสาทวินด์เซอร์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาภายในโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ พระราชพิธีฝังพระบรมศพมีผู้เข้าร่วมงานราว 800 คน โดยมีสมาชิกราชวงศ์ และข้าราชบริหารของสำนักพระราชวังทั้งในอดีตและปัจจุบันของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เข้าร่วม
และเจ้าหน้าที่ได้นำธงสัญลักษณ์ประจำพระประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ที่คลุมหีบพระบรมศพ พระมหามงกุฎ กางเขนบนลูกโลกที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคริสตจักรทั่วโลก และคทาทองคำออกจากด้านบนหีบพระบรมศพไปวางบนแท่นบูชา และจะนำไปเก็บรักษาที่ทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอนต่อไป
และบารอน ปาร์กเกอร์ ลอร์ดแชมเบอเลน หักไม้เท้าของเขาวางไว้บนหีบพระบรมศพเป็นการแสดงสัญลักษณ์ถึงการสิ้นสุดการรับใช้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หลังจากนั้นผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลง God Save the King
อธิการแห่งวินด์เซอร์ ผู้นำประกอบพิธีทางศาสนา กล่าวว่า “พวกเรามาเพื่อร่วมกันส่งดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระราชินีนาถ ผู้ทรงรับใช้พระผู้เป็นเจ้า กลับคืนสู่พระหัตถ์ของพระองค์”
หีบพระบรมศพถูกหย่อนลงในโถงเก็บพระบรมศพของพระราชวงศ์ใต้พื้นโบสถ์ของโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ หลังจากนั้นจะมีพิธีฝังพระบรมศพเป็นการภายในส่วนพระองค์ที่โบสถ์น้อยอนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งอยู่ภายในโบสถ์เซนต์จอร์จ และจะอัญเชิญหีบพระบรมศพไปฝังเคียงข้างกับหีบพระศพเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อปีที่แล้ว และอยู่ร่วมกับหีบพระบรมศพของพระราชบิดาและพระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถ