ยูเอ็นวอนหยุดยิงในลิเบีย หลังปะทะเดือดดับ 32 ราย
ยูเอ็นวอนกองกำลังติดอาวุธ 2 ฝ่ายในลิเบียหยุดยิงทันที หลังการยิงถล่มกันกลางกรุงทริโปลี เมืองหลวงเมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 รายและผู้บาดเจ็บเกือบ 160 คน
กระทรวงสาธารณสุขลิเบีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 รายและผู้บาดเจ็บ 159 คนจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธ 2 ฝ่ายทั่วกรุงทริโปลีเมื่อวันเสาร์
สื่อรายงานมีเสียงยิงต่อสู้และระเบิดดังสนั่นหลายระลอกในหลายพื้นที่ของเมือง มีกลุ่มควันดำหนาทึบเห็นได้ชัดทั่วเมือง นอกจากนี้ภาพและคลิปที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นความเสียหายของอาคารหลายสิบหลัง รวมถึงอาคารที่พักอาศัย และรถยนต์หลายคันถูกทุบเสียหายและเผาทำลาย แต่สถานการณ์ในเมืองสงบเงียบเมื่อวันอาทิตย์
การสู้รบดังกล่าวเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปี และทำให้เกิดความวิตกว่าประเทศจะถลำเข้าสู่สงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบครั้งใหม่
เหตุนองเลือดครั้งนี้เกิดจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธฝ่ายรัฐบาลแห่งชาตินำโดยอับดุลฮามิด ดีเบบาห์ นายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล ที่ได้รับการยอมรับจากนานาขาติ กับกองกำลังของรัฐบาลคู่แข่งภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฟาที บาชากา
ฝ่ายของดีเบบาห์มีฐานที่มั่นอยู่ในกรุงทริโปลีทางภาคตะวันตกของประเทศ ขณะที่ฝ่ายบาชากามีฐานอำนาจอยู่ที่อาคารรัฐสภาในเมืองโทบรุคทางภาคตะวันออกของประเทศ และความตึงเครียดปะทุขึ้นนับจากบาชาการได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือน ก.พ.และมีเสียงเรียกร้องให้ดีเบเบห์สละอำนาจ กองกำลังฝ่ายบาชากาพยายามยึดกรุงทริโปลีเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นครั้งที่สองแล้วนับจากเมื่อเดือน พ.ค.
คณะผู้แทนสหประชาชาติรับผิดชอบภารกิจสนับสนุนลิเบีย แสดงความกังวลต่อการสู้รบที่มีการใช้อาวุธหนักในย่านที่มีประชากรพักอาศัย และเรียกร้องให้มีการหยุดยิง และอันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงทันที และหันหน้าสู่การเจรจาเพื่อผ่าทางตันทางการเมือง และไม่ใช้กำลังแก้ไขปัญหา
ลิเบียตกอยู่ในความยุ่งเหยิงนับจากการลุกฮือของประชาชนที่ได้รับการสนับสนุนจากนาโต สามารถโค่นล้ม พันเอก โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการในปี 2554 และเริ่มเกิดการแย่งชิงอำนาจของกองกำลังหลายฝ่ายในปี 2557 โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาลแห่งชาติและฝ่ายรัฐสภา
