พิตต์-โจลี จุดจบที่ไม่ควรมีจุดเริ่มตั้งแต่แรก

แม้จะใช้ชื่อ "เจน โด" เพื่อปิดบังตัวตน แต่ก็ไม่พ้นถูกเปิดโปงจนได้ว่า เจ้าของนามแฝงที่แท้จริงคือ แองเจลีนา โจลี วัย 47 ปี ที่ยื่นฟ้อง FBI ว่าขาดความโปร่งใส ปิดการสอบสวนโดยไม่จับกุมแบรด พิตต์ อดีตสามีวัย 58 ปี ทั้งที่ก่อความรุนแรงในครอบครัว ราดเบียร์รดเธอ ทำร้ายเธอจนบาดเจ็บที่ข้อศอก ทะเลาะกับแม้ดด๊อกซ์ ลูกชายบุญธรรมชาวกัมพูชา บนเครื่องบินส่วนตัวเมื่อปี 2559 ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยด้วยว่า พิตต์พาโจลีไปท้ายเครื่องบิน บีบไหล่เธออย่างแรงและเขย่าพร้อมกับตะโกนว่าเธอทำให้ครอบครัวป่นปี้...

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำไปสู่คำถามที่ว่า เหตุใดความรักอันหวานชื่นราวเทพนิยายกลายเป็นรอยร้าวที่ยากจะประสาน ซึ่งคำตอบไม่ได้หายากเลย เมื่อย้อนกลับไปดูความสัมพันธ์ในครอบครัวใหญ่อันยุ่งเหยิง แทนที่จะอบอุ่นหัวใจกลายเป็นวายป่วง ตั้งแต่เรื่องการตามใจลูก ๆ สุดโอเวอร์ ทั้งที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขและที่ขอมาเลี้ยง ปล่อยให้ "เจมส์ เฮฟเว่น" พี่ชายของโจลี เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวจนเด็ก ๆ เรียกว่า "พ่อ" (Dad) สร้างความกระอักกระอ่วนให้พิตต์ ที่บางทีต้องไปปักหลักอยู่ที่กองถ่ายนาน ๆ พอกลับมาบ้าน กลับพบว่าเจมส์มาทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทน ตอกย้ำความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นระหว่างพี่ชายกับน้องสาว ที่เคยจูบปากโชว์ในงาน Oscars มาแล้ว 

ในสายตาคนนอกพิตต์กับโจลี ที่กลายเป็นคู่สมรสที่ทรงอิทธิพลแห่งฮอลลีวูด ในระหว่างใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเกือบ 5 ปี แต่เบื้องหลังรอยร้าวมันเริ่มขึ้นก่อนหน้านั้น หลังพบกันในกองถ่าย Mr. and Mrs.Smith ตอนที่พิตต์ยังมีสถานะคู่สมรสของเจนนิเฟอร์ อนิสตัน ก่อนจะคบกันจริงจังเมื่อปี 2547 และแต่งงานกันเมื่อปี 2557 และแยกทางกันเมื่อปี 2559 

คนวงในที่ใกล้ชิดกับทั้งคู่บอกว่า พวกเขาปล่อยให้เด็ก ๆ "ครองบ้าน" ได้รับการตามใจจนเหลิง ต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยงเป็นว่าเล่น ช่วงบั้นปลายของชีวิตคู่เจมส์ก็ก้าวเข้ามา และกลายเป็นตะปูตัวสุดท้ายที่ตอกฝาโลง หลังจากนอนแยกห้องกันและแทบจะไม่เจอหน้ากันมาระยะหนึ่งแล้ว 

อีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความร้าวฉานใหัครอบครัว คือ แม้ดด๊อกซ์ ที่โจลีใช้เป็นสะพานทอดไปหาพิตต์ ด้วยการพาไปกองถ่าย Mr. and Mrs.Smith และบอกพิตต์ว่าแม้ดด็อกซ์อยากเซย์ "Hi " กับเขา หลังจากคบกับโจลี เมื่อปี 2547 พิตต์ก็ยอมรับแม้ดด็อกซ์ในฐานะ "ลูกบุญธรรม" ด้วยในปี 2549 แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็ไม่น่าจะดีนัก จนกระทั่งเกิดเรื่องบนเครื่องบินเมื่อเดือนกันยายน ปี 2559 และ แม้ดด็อกซ์ที่เป็นวัยรุ่นวัย 15 ปี ก็ประกาศว่าไม่ต้องการจะใช้นามสกุลของพิตต์และไม่ต้องการเจอเขาอีก และในขณะที่พิตต์กับโจลีกำลังต่อสู้กันในทางกฎหมายแย่งสิทธิ์ในการดูแลลูก แม้ดด็อกซ์ที่ตอนนี้อายุ 21 ปี และจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในเกาหลีใต้ กำลังหันมาทำงานในวงการภาพยนตร์กับโจลี ไม่มีทางกลับไปญาติดีกับพิตต์ได้อีก

มีเอกสารทางกฎหมาย มีข้อความที่พิตต์พูดถึงลูกคนหนึ่งว่า "เหมือนเด็กโคลัมไบน์ไม่มีผิด" ซึ่งเขาหมายถึงเด็กที่ก่อคดีสังหารหมู่ที่โรงเรียนโคลัมไบน์ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร แต่ Radar Online รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดว่าหมายถึงแม้ดด็อกซ์ ส่วนโจลีก็อ้างว่าพิทท์บอกกับลูก ๆ ในระหว่างมีปากเสียงกับโจลีว่า

"แม่เขาไม่โอเคนะ เธอกำลังทำลายครอบครัว เธอบ้าไปแล้ว"

ยกตัวอย่างเช่น แม้ดด็อกซ์สนใจปืนกับมีดตั้งแต่อายุยังน้อย และโจลีก็พร้อมจะปลูกฝังความชอบของลูก ด้วยการให้สัมภาษณ์ W Magazine ว่า แม่ของเธอก็พาไปซื้อมีดเล่มแรกให้ตอนอายุราว 11-12 ปี และเธอก็ซื้อให้แม้ดด็อกซ์เช่นกัน หลังจากนั้นแม้ดด็อกซ์ก็วาดรูปปืนกลให้เธอในการ์ดวันแม่...

ส่วนลูกคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแพ็กซ์จากเวียดนาม, ซาฮาราจากเอธิโอเปีย กับเลือดเชื้อไขอย่างไชโลห์, น็อกซ์และไวโอเล็ต ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ กับพิตต์