โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ออกมาเตือนทหารของรัสเซียที่ยิงปืนโจมตีเข้าใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย จะกลายเป็นเป้าหมายพิเศษของกองทัพยูเครน เนื่องจากการที่ทหารรัสเซียเข้ายึดครองโรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ทำให้ทั่วยุโรปตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเจอกับภัยกัมมันตรังสี
เซเลนสกีได้กล่าวไว้ว่ารัสเซียได้ใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เป็นฐานในการยิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ใกล้เคียงทางภาคใต้ของยูเครน ซึ่งทหารรัสเซียได้โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้อย่างหนักและเข้ายึดครองตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ทำงานเหมือนเดิม
สัปดาห์ที่ผ่านมา สหประชาชาติ และผู้นำของกลุ่ม G7 ร่วมกันแสดงความกังวลและขอให้รัสเซียถอนกำลังออกไปจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ เนื่องจากการใช้กำลังทหารของรัสเซียกำลังทำให้ความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ต้องสั่นคลอน และอาจกลายเป็นหายนะ
ขณะที่ทางรัสเซียออกมาตอบโต้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ ซึ่งการที่ทหารรัสเซียเข้าไปยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ ก็เพื่อดำเนินการควบคุมไม่ให้มีกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมา และเป็นฝ่ายยูเครนต่างหาก ที่เป็นฝ่ายโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้จนอาจเกิดอันตราย