"ยายชา เถิดเทิง" ควงภรรยาเปิดใจ หลังป่วยมะเร็งปอด หากมีปาฏิหาริย์จะขอบวช

มีข่าวใหญ่ หามยายชาส่งโรงพยาบาล เมื่อ 31 มกราคม แล้วไปตรวจพบโรคมะเร็งในปอด ?

ยายชา : "ไม่ได้อยากได้มันมาเอง ในความรู้สึกเราเป็นบุคคลธรรมดา ไม่อยากได้ แต่เมื่อมันมาก็ปล่อยมัน ช่างมัน ไม่กลัว"

กุ้งนาง : "วันนั้นไอหนักมากทั้งวันและทั้งคืน เลยไม่ไหว ตี 3 เรียกพี่ชายไปส่งที่โรงพยาบาล ไปถึงหมอให้แอดมิท 1 คืน อีกวันนัดทำ CT Scan แล้วหมอนัดมาฟังผลอีก 1 อาทิตย์ แต่รอไม่ไหว เลยให้พี่ชายไปส่งโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพอดีผล CT Scan ออกก่อน คุณหมอบอกแฟนคุณเป็นมะเร็งปอด ในชั่วโมงนั้นเข่าอ่อน รู้สึกทรุดนิดหน่อย แต่ต้องตั้งสติ จะสู้ไปด้วยกัน ตอนนี้คุณหมอยังวินิจฉัยยังไม่ได้ รอโรงพยาบาลนัดตรวจอีกทีว่าระยะไหน" 

ในความเป็นจริงยายชามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ?
กุ้งนาง : "ใช่ค่ะ มีไขมัน ความดันสูง แล้วก็น้ำท่วมปอดค่ะที่เป็นมาประมาณปีนึงแล้ว"

ตอนเราจะไปตรวจ เราเริ่มรู้สึกแล้ว ?

ยายชา : "ใช่ มันมีอะไรแปลก ๆ ในร่างกาย เลยบอกแฟนพาพ่อไปโรงพยาบาลหน่อย ไปให้เขาเช็กจะดีกว่าเราเป็นอะไร เวลาไอมีเลือดออกมาด้วย"

ตอนที่คุณหมอบอก เรารอนานมั้ย ในการบอกยายชา ?

กุ้งนาง : "ไม่นานนะคะ เพราะยายเขาเคยสั่งไว้ว่า ถ้าเกิดเป็นอะไรอย่าปิดปัง เพราะเขาจะได้เตรียมตัว จะได้รู้ตัวป้องกันของเขา คือเรื่องนี้คุยกันมาก่อนแล้ว เป็นอะไรจะไม่ปิดบังกัน เลยตัดสินใจตอนออกจากโรงพยาบาล ค่อย ๆ ลูบหลังเขา เขาก็ถามแหละ แม่พ่อเป็นอะไร แม่บอกพ่อมาตรง ๆ พ่อรับได้ ก็บอกยายใจเย็น ๆ นะ เป็นอะไรก็ได้ เราสู้ไปด้วยกันนะ ไม่ต้องกลัวนะกุ้งอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างยาย บอกว่า ยายเป็นมะเร็งปอด"

ยายชา : "เรื่องเล็ก คนอื่นเขาก็เป็นกัน"

กุ้งนาง : "เขาเข้มแข็ง"

ระหว่างที่รอหมอ พี่กุ้ง ดูแลยายชายังไง ?

กุ้งนาง : "ดูแลเรื่องการกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ อาหาร ยา จะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ไม่ให้ใครทำและไม่ฝากใคร ต้องดูแลด้วยตัวเองตลอด"

ตอนนี้ ยายชา ตัวติดกับพี่กุ้ง ลืมตาขึ้นมาต้องเห็นพี่กุ้ง ?
ยายชา : "เพราะว่าเดินไกลไม่ได้ เหนื่อย"

ช่วงแรกไม่ลงโซเชียล ไม่อยากให้คนตื่นตระหนก แต่ตอนหลังพี่กุ้งเป็นคนลงเอง ?

กุ้งนาง : "ใช่ ณ ชั่วโมงนั้น เป็นช่วงที่ค่อนข้างจิตตกอยู่ จะทำยังไงดีให้แฟนคลับยายได้รู้ว่า ความคืบหน้ายายเป็นยังไง ไม่ได้ไปขายของที่วัด 2-3 วันแล้ว เดี๋ยวลูกค้าจะหาย จะสงสัย เราก็หากำลังใจให้ยายด้วยเพราะแกทรง ๆ วันสองวันไม่ค่อยจะดี เลยตัดสินใจลงโซเชียล ทุกคนให้กำลังใจยาย คอมเมนต์เป็นร้อย คนดูเป็นแสน ก็มาอ่านให้ยายฟัง ยายใจชื้นขึ้นเยอะเลย มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ"

ยายชา : "ตั้งแต่วันนั้นก็ลุยมาด้วยกัน มันใจฟู ขอบคุณที่คุณทั้งหลายมาช่วยยายชา"

ยายชา สั่งเสียไว้หมดแล้วเหรอ ?

ยายชา : "ใช่"

กุ้งนาง : "ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังนอนซม แล้วมีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ ใจเรายังตกอยู่"

ยายชา : "ใจของเรามันหลุดหมดแล้ว เราบอกแม่ถ้าพ่อเป็นอะไร อย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน 2 วันก็เผาเลย"

กุ้งนาง : "ไม่อยากให้สิ้นเปลืองเยอะ"

ยายชา : "แต่ถ้าพ่อยังไม่เป็นอะไร มันแค่เริ่มปล่อยเลย รักษาตามอาการต่อไป"

กุ้งนาง : "ก็เสียใจนะ เขายังไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น ทำไมต้องสั่งเสียขนาดนี้ ทำให้เราจิตตก เลยให้กำลังใจเขาบอกว่า ไม่เป็นอะไรหรอก เรายังไม่รู้ว่าระยะไหน หมอเขาต้องวินิจฉัยก่อน อาจจะเป็น 1 2 3 หรือ 4 เขายังรักษาได้ มียาดีหมอเขาเก่ง ให้กำลังใจกันอย่างนี้ ไม่เป็นอะไรหรอก จะอยู่เป็นมิ่งขวัญเป็นคู่ขวัญกันอย่างนี้แหละ"

พี่กุ้ง ก็ทำใจไว้แล้ว ?

กุ้งนาง : "ทำใจไว้ส่วนนึง ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ระหว่างที่อยู่ เราจะต้องดูแลประคับประคองเขาให้ดีที่สุด"

ถ้าเกิดมีปาฏิหาริย์ เตรียมทำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ ?
กุ้งนาง : "ถ้ามีปาฏิหาริย์ เราสวดมนต์ขอพร ไหว้พระ ถ้าเป็นไปได้ เราขอปาฏิหาริย์ ถ้าแกหายป่วย หรือมะเร็งสงบ เราเตรียมตัวบวชชีสัก 19 วัน บวชให้เขา สัญญาถ้าปาฏิหาริย์มีจริง"

ยายชา : "ถ้าปาฏิหาริย์ในโลกนี้มีจริง ยายหายปกติโดยที่ไม่ต้องไปกินยาเพื่อให้ตัวเองหาย ถ้ามีโอกาสก็จะบวชเหมือนกัน บวชพระ"

ที่มา : รายการคุยแซ่บShow